สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง รรท. ผู้ช่วย ผบ.ตร. สมัยดำรงตำแหน่ง น.1ได้รับเบาะแส ว่ามีการลักลอบเปิดคลินิกเถื่อนของชาวจีน พร้อมการตลาดแบบใหม่ จึงสั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จัดชุดสืบสวนบูรณาการสืบนครบาล , ตำรวจ CIB และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สน.มักกะสัน ร่วมกันบุกทลาย “ซาลอนเจ็ก” สถานบริการครบวงจร ย่าน RCA โดยเปิดให้บริการกับลูกค้าชาวต่างชาติในลักษณะ ศัลยกรรม , นวด , สปา จึงได้ดำเนินการสืบสวน เพื่อทำการตรวจค้น จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย เกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาใช้บริการ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐ ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. , พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมด้วย นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ , นางสาวชนัดดา สืบสุข นิติกรปฏิบัติการ, นายชาตรี พินใย ปฏิบัติงานนิติกร ร่วมกันสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้าน YF salon ซึ่งตั้งเป็นสถานบริการด้านสุขภาพแบบครบเครื่อง โดยจับกุมตัวผู้ต้องหา 7 ราย
ลำดับ 2-3 ถูกแจ้งข้อหา “คนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
ลำดับ 4-7 ถูกแจ้งข้อหา “กระทำความผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
พร้อมกันนี้ ได้ตรวจยึดของกลาง 14 รายการ
1. โบชัวร์โฆษณาและ QR Code ใช้ชำระเงินจำนวน 1 ชุด
2. เมมโมรี่การ์ดกล้องวงรปิด จำนวน 4 ชิ้น
3. สมุดบัญชีนวด จำนวน 1 เล่ม
4. สำเนาใบเสร็จ จำนวน 1 ชุด
5. เอกสารเกี่ยวกับสัญญาเช่า และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ชุด
6. ใบเสร็จรับเงินของผู้เข้ารับบริการ จำนวน 9 เล่ม
7. เสื้อกราวน์สีขาวที่ใช้ใส่ขณะทำหัตถกรรมเสริมความงาม จำนวน 2 ตัว
8. ขวดน้ำเกลือยี่ห้อ NSS + ยาชา (เปิดใช้แล้ว) จำนวน 1 ชุด
9. เมโทรนาดาโซลโซเดียมคลอไรด์ จำนวน 11 ขวด
10. เข็มฉีดยาไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบขนาด จำนวน32 ชิ้น
11. ขวดน้ำเกลือยี่ห้อ NSS จำนวน 8 ขวด
12. ชุดสายให้น้ำเกลือ ไม่ทราบยี่ห้อ จำนวน 19 ชิ้น
13. ถุงเมมือยางสีขาว จำนวน 1 กล่อง
14. เข็มฉีดยาใช้แล้วพร้อมขยะติดเชื้อ จำนวน 1 ชุด
สำหรับพฤติการณ์ กล่าวคือ “ซาลอนเจ็ก” Start Up สถานบริการความงามแบบครบวงจร พร้อมแผนการตลาดใหม่ แย่งอาชีพคนไทย ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่า ได้มีชาวจีนกลุ่มหนึ่งลักลอบเปิดกิจการสถานบริการความงามแบบครบวงจร กล่าวคือ ทำผม ทำเล็บ นวดเท้า นวดพิสดาร ไปจนถึง ฉีดหน้า ฉีดวิตามิน เรียกว่ามั่วกันอยู่ในร้านแบบครบวงจร จึงได้มีการสนธิกำลังระหว่าง ชุดสืบนครบาล , บชก. (CIB) , สน.มักกะสัน และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สืบสวนจนทราบว่าสถานบริการดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตใด ๆ
ต่อมา วันที่ 27 พ.ย. 2567 เวลา 17.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าตรวจสอบร้าน YF salon แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นคูหา 6 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะให้บริการแตกต่างกันออกไป และบริเวณชั้นที่ 5 ของอาคาร มีห้องที่มีไว้ให้ "หมอเก๊" คอยบริการฉีดหน้าให้กับลูกค้า โดยพบอุปกรณ์เข็มฉีดยา ถูกใช้ให้กับลูกค้าไปแล้วหลายราย โดยแรกเริ่มสาวใหญ่ชาวจีน ผู้เป็นเจ้าของ มีท่าทีแข็งขืนกับเจ้าหน้าที่อ้างว่า ตนเองเป็นลูกค้า แต่เมื่อได้ขยายผล สอบปากคำลูกจ้างภายในร้านโดยละเอียด ก็พบว่าเป็นเจ้าของร้าน และจากการตรวจค้น มีการยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน 14 รายการ พร้อมจับกุมเจ้าของร้านและพนักงานภายในร้านรวมทั้งสิ้น 7 ราย
ในชั้นจับกุม สาวจีน เจ้าของร้านรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ไม่เคยมีการขออนุญาตใดๆ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพราะประเทศจีนคู่แข่งเยอะ มาเปิดในประเทศไทยน่าจะสามารถทำกำไรได้ดีกว่า ส่วนหมอที่มาฉีดหน้าให้กับลูกค้าไม่ใช่หมอจริงๆ โดยชุดกราวที่หมอสวมนั้นสั่งซื้อมาจากเถาเป่า (Taobao)” หลังจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า การลักลอบเปิดคลินิกเสริมความงามเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงแอบอ้างตนเองว่าเป็นหมอโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง เป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน ทั้งยัง ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ตัวยาไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรองรับมาตรฐาน อย. หรือ อาจเป็นของปลอม ซึ่งทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการได้ ทั้งใบหน้าผิดรูป บิดเบี้ยว ตาบอด ผิวเน่าเปื่อย หรือเกิดการอักเสบจนติดเชื้อ ทำให้เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
ดังนั้น การเลือกใช้บริการคลินิกเสริมความงามที่ปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงในอนาคต ขอให้ท่านเลือกคลินิกเสริมความงามให้ปลอดภัย มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากกระทรวงสาธารณสุข แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพ ผ่านการรองรับจากแพทยสภา ตัวยาต้องผ่านการรองรับจาก อย. ทั้งในประเทศไทย หรือต่างประเทศ สถานที่สะอาด ปลอดเชื้อ ถูกสุขลักษณะทุกขั้นตอน