23 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้ามอบตัวสู้คดีโพสต์ข้อมูลเท็จดิไอคอน ว่า ในส่วนของขั้นตอนหลังจากนี้ทางชุดคลี่คลายคดี จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบสำนวนให้มีความแน่นหนามากขึ้น
“ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง จากหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างแน่ชัดว่า เจ้าตัวได้โพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับคดีดิไอคอนจริง โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการโยกย้ายสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทอล ซึ่งเราเก็บพยานหลักฐานต่างๆเหล่านี้ไว้หมดแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของคำให้การของ นายเอกภพ ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เมื่อวานที่ผ่านมา (22 พ.ย.) เบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าข้อมูลที่นำไปโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นข้อมูลที่ได้รับจากพยาน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลเท็จ และ ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้สังคมเกิดความสับสน รวมไปถึงสร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานรัฐต่างๆ
ทั้งนี้ จากการคำให้การของนายเอกภพ พบว่า มีหลายส่วนที่ขัดแย้งกับคำให้การของพยานบุคคล ที่นายเอกภพให้การพาดพิงถึง โดยเฉพาะคำให้การในส่วนของข้อมูลการโยกย้ายสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทอล ซึ่งพยานบุคคลดังกล่าวยืนยันว่า ในระหว่างที่พูดคุยกับนายเอกภพ ไม่มีการบ่งชี้ หรือ ระบุชัดเจนว่า การทำธุรกรรมโยกย้ายเงินดิจิทอล มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท นั้นเป็นของผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน
โดยคำให้การของพยานบุคคลยังยืนยันว่า ข้อมูลเงินดิจิทอลดังกล่าว เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากข้อมูลที่หาได้จากสื่อสาธารณะ ตามที่นายเอกภพ เรียกร้องให้พยานบุคคลช่วยหาข้อมูลมาให้ ก่อนที่สุดท้ายจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลนั้นสอดคล้องหรือเกี่ยวข้องกับดิไอคอน เพราะเป็นเพียงข้อมูล transaction ที่ใหญ่ที่สุดของกระดานซื้อขายรวมในวันที่บอสทั้ง 18 คนโดนจับกุม แต่นายเอกภพ กลับนำข้อมูลดังกล่าวไปเชื่อมโยงเรื่องราวเองแล้วนำไปโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก
อย่างไรก็ตามจากคำให้การของนายเอกภพ ที่ขัดแย้งกับพยานบุคคลต่างๆ และ หลักฐานอีกหลายอย่าง ทางพนักงานสอบสวน บก.ปอท. จึงจำเป็นที่อาจจะต้องมีการเสนอเรื่องไปที่คณะทำงานตรวจสอบคดีดิไอคอน บช.ก. ซึ่งนำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อพิจารณาเชิญตัว นายเอกภพ มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง