วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.40 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ "ครูปรีชา" เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อขอคัดสำนวนคดีหวย 30 ล้าน พร้อมกันนี้ยังถือโอกาสนำ กาแฟและข้าวผัดมาเยี่ยมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด (ภรรยา) 2 ผู้ต้องหาในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ "เจ้อ้อย" ร้องเอาผิดกรณีฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท
นายปรีชา เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาตามนัดที่พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้นัดตนมาคัดสำนวนคดีหวย 30 ล้าน โดยเป็นคดีตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ตนเคยร้องทุกข์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง "ทนายตั้ม" เป็นทนายให้กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ "หมวดจรูญ" แต่ตัว "ทนายตั้ม" มาล้วงความลับจากฝั่งตนเอง โดยอาศัยความเป็นคนซื่อๆของตน และตนเชื่อว่ามีการซื้อสำนวนคดีกันเกิดขึ้นแน่นอน เพราะตอนที่ฝั่งคู่กรณีได้เอกสารสำนวนคดีนี้มา เชื่อว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ซึ่งวันนี้ก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ "ทนายตั้ม" จะถูกนำตัวฝากขังศาล ตนจึงนำข้าวผัดและกาแฟ มามอบให้กับทั้งทนายตั้ม และภรรยาด้วย ยืนยันว่า มาด้วยกัลยานิมิตร และความเป็นพี่น้อง จึงมาส่งกำลังใจให้กับทางทนายตั้มและภรรยาให้สู้ให้เต็มที่ และเป็นกำลังใจให้กับ "เจ้อ้อย" ด้วย เพราะตนกับ เจ้อ้อย ถูกกระทำไม่ต่างกัน
และขอย้ำว่าไม่ได้มีความเจ็บช้ำน้ำใจแก่ทนายตั้ม และไม่ได้มาเยาะเย้ย แต่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรมที่เกิดจากการกระทำของตนเอง ทั้งนี้ อยากฝากสภาทนายความฯ ให้ตรวจสอบมรรยาททนายความของทนายตั้มด้วย และอยากขอให้ทุกคนที่มีคดีความรวบรวมพยานหลักฐานไว้ให้มากที่สุด และเก็บไว้ที่ตัวเองอย่าไว้ใจใคร
"พนักงานสอบสวนนัดตนมาในวันนี้ ยิ่งกว่าความบังเอิญ แต่เป็นฟ้าลิขิต ถือว่ามารับน้องห้องเดียวกัน โดยตอนที่ตนเองโดนจับที่โรงเรียน "ทนายตั้ม" เคยบอกว่า ล้างคุกรอแล้ว ในวันนี้ก็อยากจะบอกทนายตั้มเหมือนกันว่าล้างคุกรอแล้วเหมือนกัน" นายปรีชา กล่าว