2 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าในคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" กับเนชั่นทีวี ว่า ในวันนี้ (2 พ.ย.) จะมีการสอบพยานปากสำคัญในคดีดิไอคอน ซึ่งเป็นพยานที่ยังไม่เคยให้การ และพยานปากนี้ มีความสำคัญในการนำไปสู่การพิจารณาตั้งข้อกล่าวหา และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งจะมีความชัดเจนในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนกรณีที่ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล และกลุ่มผู้ต้องหาดิไอคอนกรุ๊ป เตรียมจะนำพยานกลุ่มแรก 20คน ไปให้ปากคำดีเอสไอในวันจันทร์นี้ และเตรียมประสานพาพยานให้ปากคำ 2,000 คนนั้น รักษาการอธิบดีดีเอสไอ บอกว่า การจะพาพยานมาให้ปากคำในวันจันทร์ ตนยังไม่ทราบ คงต้องประสานกับพนักงานสอบสวน
ส่วนพยาน 2,000 กว่าคนนั้น คงต้องดูว่า เป็นพยานฝั่งผู้ต้องหา ที่เคยมาให้การหรือยัง ถ้ามาให้การแล้วจะเปลี่ยนคำให้การ หรือให้การเพิ่มเติม คงต้องในรายละเอียด แล้วคณะพนักงานสอบสวน จะเป็นคนพิจารณาวิเคราะห์ความผิด หรือเป็นลักษณะของการแก้ข้อกล่าวหาอะไรหรือไม่ หากเป็นประเด็นซ้ำๆ เดิม แล้วต้องสอบจำนวนมากขนาดนั้น คงเป็นการทำให้คดีล่าช้า แล้วเกิดความเสียหาย ก็คงจะไม่ได้สอบทั้งหมด
ทั้งนี้หากเป็นพยานที่ไม่เคยให้ปากคำ ก็คงต้องสอบและรับฟัง แต่จำนวนเท่าไหร่อย่างไรยังตอบไม่ได้ ส่วนจะเป็นดีเอสไอสอบเอง หรือให้ทางตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปคบ.มาร่วมสอบนั้น คงจะมีการประชุมกันก่อนว่า จะให้หน่วยไหนสอบบ้างอย่างไร
ด้าน ทนายวิฑูรย์ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า วันนี้จะเตรียมการทำเอกสารต่างๆ ก่อนที่ในวันจันทร์ จะพาพยานกลุ่มแรก 20 คนไปให้ปากคำ ขณะนี้ได้เช็กรายชื่อพยานแล้ว มีจำนวน 2,400 คน ที่ต้องการไปให้ปากคำกับดีเอสไอ โดยหลังจากเข้าไปให้ปากคำในวันจันทร์ ก็จะมีการพูดคุยหารือกับทางดีเอสไอว่า มีศักยภาพและความสามารถสอบปากคำพยานได้วันละกี่คน หลังจากนั้นจึงจะสามารถกำหนดแนวทางได้ว่า จะมีการแบ่งพยานไปสอบปากคำอย่างไรบ้าง
ส่วนล่าสุดที่ได้เข้าไปเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 18 คนนั้น ทุกคนปรับตัวได้หมด ไม่ได้มีความเครียดอะไร แต่ส่วนใหญ่เป็นห่วงครอบครัว และอยากเจอคนในครอบครัว ส่วนเรื่องการประกันตัว คาดว่าอาจจะมีการวางแผนในการประกันตัวในช่วงผัดที่ 2-3 ทั้ง 18 บอส และได้มีการเตรียมวงเงินประกันตัว 3 ล้านต่อคน เนื่องจากก่อนหน้านี้บอสดารา 3 คน ได้มีการยื่นประกันผัดแรกกับศาล เป็นจำนวนเงิน 2 ล้าน แต่ไม่ได้รับการพิจารณาให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว รอบนี้จึงตัดสินใจเพิ่มหลักทรัพย์เป็นเงิน 3 ล้านบาท ส่วนจะใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด หรือทรัพย์สินขึ้นอยู่กับญาติของแต่ละคน