"ทนายตั้ม" ชี้ช่อง ตร.ตามอายัดกล่องดวงใจอีกใบของบรรดาบอส เชื่อมหาศาลไม่แพ้ที่ ปปง.สั่งอายัด

15 ตุลาคม 2567 ทนายตั้ม ษิทธา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการพาผู้เสียหายจากคดีดิไอคอนกรุ๊ป ไปร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และต่อมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้มีการยึดอายัดทรัพย์ ของบริษัทไอคอนกรุ๊ป จำกัด รวมถึงบอสทั้งสี่ 

ประกอบด้วย นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล , นายณิชพน ทองมี , นางสาวฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย , และ นายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์  ซึ่งเป็นทรัพย์สิน ในประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ , เงินในบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน , เงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ , และเงินในบัญชีซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัล และสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 11 รายการ รวมประเมินมูลค่าทรัพย์สินกว่า 125,548,076.99 บาท 

โดยหลังจากนี้ จะไม่สามารถ โอนย้าย ทรัพย์สิน ตามรายการต่างๆได้ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งเป็นในลักษณะของอสังหาริมทรัพย์ ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง ตำรวจสามารถทำการอายัดหลังจากนี้ได้ ส่วนที่ตนเป็นห่วงคงจะเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล USDT ซึ่งเชื่อว่า มีมูลค่ามากมายมหาศาล ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการติดตาม

ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วนที่พยานได้ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้ที่เป็นกุนซืออยู่เบื้องหลังของ บอสพอล  โดยมีค่าตอบแทนเป็นสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งได้มีการใบ้ชื่อ เป็น อักษรย่อคือ ธ และ ร  ต้องบอกว่า บุคคลคนนี้เคยติดต่อตนมา ภายหลังจากที่เรื่องดังกล่าวแดงขึ้น โดยอ้างว่าจะมาทำการแฉบอสพอล แต่ตนไม่ได้ไปพบ

ส่วนสาเหตุที่บุคคลดังกล่าว ต้องการที่จะออกมาแฉบอสพอล อาจจะเป็นเพราะว่า ก่อนหน้าที่เริ่มก่อตั้ง บุคคลที่มีชื่อใบ้ว่า ธ นั้น เป็นผู้ที่วางแผนงานทั้งหมด แต่เมื่อบริษัทเดินงานไปได้สักระยะ บอสพอล ก็ได้มีการเขี่ยบุคคลดังกล่าวออกไปจากบริษัท อาจจะเป็นสาเหตุในการแตกหัก และอยากจะออกมาแฉในครั้งนี้


"เอกภพ" แฉ The Icon แลกสกุลเงินกับทุนจีนสีเทา

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยถึง กรณีที่มี บริษัท The Icon มีการจ่ายเครื่องเซ่น ให้กับเทวดาเจ้าที่ ด้วยสกุลเงินดิจิทัล ว่า ขณะนี้ พยานที่เราได้ตัวมานั้นมีหลักฐานทั้งหมดแล้วว่ามีการโอนเงินให้กับหน่วยงานใดบ้าง คือ สคบ./ปคบ./สอท./และ DSI และแต่ละหน่วยงานเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ชื่อย่อของนักการเมือง ส. ออกไปนั้นตนบอกได้คำเดียวว่า เป็นเพียงแค่ตัวเล็กๆ เท่านั้น ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เทวดาเจ้าที่นำเงินที่ได้รับจากการเซ่นไหว้ ไปใช้ในกิจการการเมืองหรือไม่ ในส่วนนี้ตนไม่สามารถบอกได้

ส่วนสาเหตุ ที่ต้องใช้เครื่องเซ่นไหว้เป็นสกุลเงิน USDT เพราะสกุลเงินดังกล่าวนั้น มีความเชื่อมโยงกับสกุลเงิน US Dollar มีความเสถียรค่อนข้างสูง และอย่างที่หลายคนรู้กันคือ การติดตามการโยกย้ายถ่ายโอนนั้นค่อนข้างยาก

ซึ่งวิธีการในการเปลี่ยนเงินสดไปเป็นเงิน Digital สกุลเงิน USDT นั้น จะมีความเกี่ยวพันกับการฟอกเงินให้กับทุนจีนสีเทา ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ทุนจีนสีเทาทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อได้เงินมาเป็นเงินสด ก็ไม่สามารถที่จะหอบเงินข้ามประเทศได้ จึงใช้วิธีเปลี่ยนเงินสดดังกล่าว ให้เป็นสกุลเงินดิจิทัล USDT จากนั้นก็เดินทางเข้าประเทศไทย ในขณะที่ผู้ที่ต้องการ ใช้สกุลเงิน USDT ในการเซ่นไหว้เจ้าที่ ก็จะใช้เงินสดสกุลเงินบาทไทย ไปแลกเงินดิจิทัลจากทุนจีนสีเทา เพื่อเอาเงินดิจิทัลดังกล่าว ไปเซ่นไหว้ให้กับเจ้าที่ ส่วนคนจีนเมื่อฟอกเงินเสร็จเป็นเงินไทย ก็จะนำเงินดังกล่าวไปซื้อบ้านและคอนโดในประเทศไทย