15 ตุลาคม 2567 "กบ ไมโคร" ไกรภพ จันทร์ดี นักดนตรีชื่อดัง เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.
โดยทันทีที่มาถึง เจ้าตัวได้พยายามหลบสื่อมวลชนและขึ้นลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ "กบ ไมโคร" ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า วันนี้ตัวเองเข้ามาให้ปากคำในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่ง จากกรณี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าชื่อตัวเองนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทดังกล่าว
"กบ ไมโคร" ตอบว่า ไม่กังวล ก่อนขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน
"กบ ไมโคร" พบพนักงานสอบสวนปมพัวพัน "the icon group" รับตัวเองเป็นแม่ข่าย มีลูกทีม 8 คน ไม่ทราบว่าเป็นธุรกิจเครือข่ายถ้ารู้ก็ไม่ทำ
หลังให้ให้ปากคำตำรวจ บก.ปคบ.เสร็จ "กบ ไมโคร"ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
โดย "กบ ไมโคร" เปิดเผยว่า วันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะมีประเด็นที่เป็นไวรัลอยู่ในกระแสอินเทอร์เน็ต ว่าตนเป็นผู้ร่วมขบวนการ หรือเป็นผู้เสียหายจาก "The Icon Group" กันแน่ ส่วนภาพที่ปรากฏตนขึ้นเวทีนั้น คลิปที่หลุดออกมาตอนขึ้นเวทีตนเข้าร่วมประมาณถึง4-5 เดือน เป็นการขึ้นไปในหัวข้อ Rising Star เพื่อขึ้นไปบอกเล่าว่า ธุรกิจนี้ทำไมเราถึงเข้าร่วม ซึ่งการขึ้นเวทีไม่ได้มีค่าจ้างแต่อย่างใด
สาเหตุที่ทำให้ร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะว่าเชื่อมั่น ในตัวเลขผลประกอบการของบริษัทที่มียอดขาย 4,000 กว่าล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี ตนมาทำธุรกิจออนไลน์ ยืนยันว่าตอนนั้นที่ขึ้นเวทีไม่ได้รับค่าจ้างโดยในบริษัทเรียกสิ่งนี้ว่า "การแบ่งปัน"
ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฎว่าตนไปท่องเที่ยวทริปฝรั่งเศส
"กบ ไมโคร" ชี้แจงว่า เป็นทริปโปรโมชั่นสำหรับ 10 ดีลเลอร์ ซึ่งตนเอง เปิดไว้ 5 ดีลเลอร์ ภรรยา 2 ดีลเลอร์ และคนในบ้าน 3 ดีลเลอร์มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อถามว่าเปิด 10 ดีลเลอร์ได้กำไรบ้างหรือไม่
"กบ ไมโคร" ระบุว่า ช่วงแรกขายพอได้แต่ช่วงหลังนั้นขายไม่ได้ ขายได้เฉพาะกับคนที่รู้จัก สุดท้ายพอสินค้าใกล้หมดอายุก็เริ่มลดราคา จนถึงขั้นนำไปถวายพระหรือคนรู้จัก ยอมรับว่าตนเองเป็นแม่ทีม โดยอยู่ในบริษัทดังกล่าวประมาณหนึ่งปีนิดๆ ซึ่งตอนที่ตนทำธุรกิจไม่มีคำว่าแม่ทีมด้วยซ้ำรู้เพียงแค่ว่าเป็นธุรกิจแบบแฟรนไชส์ หลังมาร่วมธุรกิจนี้ก็ได้มีคนที่รักตนมาร่วมเปิดบิลทั้งหมด 8 ดีลเลอร์มีลักษณะการทำงาน “ไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว” เมื่อมีดีลเลอร์สั่งคำสั่งออกมาเราก็ต้องทำตามที่เขาสั่ง
ส่วนสาเหตุที่ต้องออกจากธุรกิจนี้เป็น เพราะทั้ง 8 คน ที่ตามมานั้นไม่สามารถขายของได้ทั้งที่ 8 คน พยายามทุกความสามารถ ในทุกช่องทางในการขายสินค้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะขายได้จึงตัดสินใจที่จะออกจากธุรกิจนี้ช่วง กรกฎาคม-สิงหาคม 2566 และออกมาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง จึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล ย้ำหากรู้ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือเครือข่ายก็บอกว่าไม่มีใครที่อยากจะทำธุรกิจแบบนี้
พร้อมยอมรับว่าบริษัทดิไอคอนมีปัญหามานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดเนื่องจาก คนที่พูดก็จะถูกฟ้องร้องกลับ เพราะตอนนี้มีคนที่ถูกฟ้องตอนนี้อยู่ในชั้นศาล จะมีความคืบหน้าในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ คนที่โดนฟ้องมีหลายคนก็รู้จักกันอยู่ และยังอยู่ในห้องผู้เสียหายด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า เคยเจอ "บิ๊กบอส" ในบริษัทดิไอคอนหรือไม่
"กบ ไมโคร" ระบุว่า บิ๊กบอสมีเพียงคนเดียวนั่นก็ คือ "บอสพอล" แต่จะมีบอสรองลงมาอีก 10 คน และตนเพิ่งรู้ว่าเป็นธุรกิจแบบเครือข่าย เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นธุรกิจแบบออนไลน์เท่านั้น และในวันนี้ลูกทีมของตนจำนวน 8 คน ได้มอบอำนาจให้ตนดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัทดิไอคอน และผู้บริหาร สำหรับผู้เสียหาย 8 คน ก็ยังต้องการเงินคืน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงินคืน