วันที่ 11 ตุลาคม 2567 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยคืบหน้า กรณีนายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ "ติ๊กชีโร่" ขับรถชน น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี เสียชีวิต และนายจักรภัคร อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งเป็นน้องชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ไปสอบปากคำ "ติ๊กชิโร่" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดนั้นต้องรอผลการตรวจสอบจากทางโรงพยาบาลอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีการแจ้งข้อหากับใครแล้วหรือไม่ ทางด้าน ผบก.น.2 ตอบเพียงว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย" เท่านั้น
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงสาย กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อทำการตรวจพิสูจน์และเก็บหลักฐาน โดยในช่วงแรกพนักงานสอบสวนได้ให้ทีมกองพิสูจน์หลักฐานเข้าดูกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นกล้องหน้ารถของนักร้องคนดังกล่าว โดยภาพในกล้องจะเป็นลักษณะที่รถคันดังกล่าวขับขึ้นสะพานมา โดยอยู่ฝั่งซ้ายของถนน ก่อนจะมาเจอกับรถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งในรายละเอียดนั้นทางพนักงานสอบสวน ไม่ขอเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้เคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุไปยังจุดจอดรถของกลาง ซึ่งมีรถยนต์คันเกิดเหตุของ "ติ๊กชิโร่" จอดเก็บอยู่ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบร่องรอยการชนของรถทั้ง 2 คัน
ขณะที่ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุ ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า วันนี้ลา1วัน ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดให้พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจดูร่องรอยการเฉี่ยวชนรถทั้ง2คันแล้ว และยังให้ตรวจภาพการชนจากกล้องวงจรปิดหน้ารถตู้ ยี่ห้อฮุนได ของ "ติ๊กชิโร่" เพื่อดูเหตุการณ์ด้วย ก่อนจะสรุปออกมาเป็นความเห็นทางคดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่ารถยนต์ของ "ติ๊กชิโร่" มีกล้องจำนวน 2 ตัว คือ กล้องหน้า และกล้องหลัง ซึ่งได้มีการตรวจสอบภาพทั้ง 2 กล้องแล้วพบว่า ขณะก่อนเกิดเหตุรถยนต์ของ "ติ๊กชีโร่" ได้ขับมาเลนซ้ายตามปกติ ก่อนจะเข้าชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งจอดอยู่บนไหล่ทางฝั่งซ้ายมีเนื้อที่ประมาณ 1 ฟุตครึ่ง ทำให้ช่วงท้ายรถ ยังทับบริเวณเส้นขาวอยู่
พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุก็พบว่า สะพานในจุดเกิดเหตุ มีลักษณะโค้งไปทางด้านขวาเล็กน้อย ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ เนื่องจากโดยปกติวิสัยคนขับรถขึ้นสะพานจะมีแรงส่งเมื่อเจอทางโค้งขวา อาจจะมีการขับรถเหลื่อมไปทางด้านซ้ายเล็กน้อยเพื่อที่จะเตรียมเข้าโค้งทางด้านขวาก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ต้องรอความชัดเจนจากการสอบปากคำและการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ รวมไปถึง การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่รถด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีการโทรศัพท์ไปสอบถามอาการของผู้บาดเจ็บ รวมไปถึงความคืบหน้าทางคดี โดยทางญาติปฏิเสธตอบคำถาม เพราะยังไม่สะดวกให้ข้อมูล