10 ตุลาคม 2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์, พ.ต.ต.พัฒน์ คล้ายวัฒนะ สว.กก.4 บก.ป. นำกำลังจับกุม
1.นายกฤษณ์ อายุ 38 ปี
2.น.ส.วิจิตรา อายุ 31 ปี
3.นางคูณ อายุ 70 ปี
ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.332-334/2567 ลงวันที่ 8 ต.ค. 67 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น"
โดยจับกุม นายกฤษณ์ และ นางคูณ แม่ยายได้ที่ บริเวณบ้านพักใน ม.8 ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
ส่วน น.ส.วิจิตรา จับได้ริมถนน ใน
ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการจับกุม นายสุทีป สังขโชติ หรือเอียด อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มฆ่าฝังดิน นายขนบ หรือโกหมาด อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของสนามชนไก่ชนใน จ.ชุมพร
แต่ระหว่างที่ นายสุทีป ถูกควบคุมตัวนั้นได้มี นายกฤษณ์ กับพวกสวมรอยเป็นตำรวจกองปราบติดต่อไปหาญาติของ นายสุทีป โดยอ้างว่าหากโอนเงินมาให้ 100,000 บาท ก็จะยอมปล่อยตัวนายสุทีปให้เป็นอิสระ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้ แต่ภายหลังทราบว่าถูกหลอกลวง จึงไปแจ้งความที่ สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งตำรวจกองปราบตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติ นายกฤษณ์ พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 12 คดี โดยมีหมายจับศาลจังหวัดตาก ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ติดตัวอีก 1 หมาย
อีกทั้งยังพบว่าแก๊งคนรายนี้ เคยติดต่อไปยังญาติของผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจทางหลวง จับกุมพร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 13 ล้านเม็ด เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาอีกด้วย
โดยแก๊งคนร้ายหวังหลอกเอาเงินผู้เสียหาย แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับ เคราะห์ดีที่ญาติรู้ทันยังไม่โอนเงินไปให้แต่อย่างใด จึงนำส่ง สภ.กะปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป