svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวม 3 บัญชีม้า รับสแกนหน้าถอนเงินเหยื่อ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

ตร.ไซเบอร์ รวม 3 บัญชีม้ารับสแกนหน้าถอนเงินเหยื่อ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่หลอกมาได้ จนหมดตัวตัดสินใจโดดน้ำเจ้าพระยาดับ

จากกรณี น.ส.สุดารัตน์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครพนม กระโดดจากเรือข้ามฟาก ได้วางทรัพย์สินไว้บนเรือก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดจากเรือขณะที่เรือวิ่งมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในระหว่างนั้นมีผู้โดยสารบนเรือที่เห็นเหตุการณ์พยายามโยนห่วงยางเพื่อช่วยเหลือหลายครั้ง ก่อนจะหมดแรงจมน้ำหายไป หลัฃเสียใจเพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดไปหมดเลย เหลือเงินในบัญชีไม่กี่หมื่นจนก่อเหตุสลด เมื่อเย็นวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

29 กันยายน 2567 ล่าสุด พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พ.ต.ท.สมิทธิกิจ อินทรหอม รองผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.สอท.2  นำกำลังเข้าจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ

 

รวม 3 บัญชีม้า รับสแกนหน้าถอนเงินเหยื่อ \"แก๊งคอลเซ็นเตอร์\"

 

 

1.น.ส.ซันมา อายุ 19 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ 

2.นายอุทัย อายุ 44 ปี ชาว จ.สระแก้ว

3.นายมาณพ อายุ 59 ปี ชาว จ.นครราชสีมา

 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 930,932,933/2567 ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุนี พบศพ น.ส.สุดารัตน์ บัวแสน อายุ 28 ปี ชาว จ.นครพนม ประกอบอาชีพนวดแผนโบราณ หลังก่อเหตุกระโดดลงจากเรือข้ามฟากขณะเรือแล่นข้ามฟากจากด้านท่าน้ำนนทบุรี ไปยังท่าน้ำฝั่งบางศรีเมือง จมดิ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต

 

ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเกิดความเครียดที่เข้าไปสมัครทำงานกดไลน์เพื่อหารายได้เสริม แล้วถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ลงทุน ก่อนใช้อุบายหลอกให้โอนเงินในช่วงวันที่ 5 -6 ก.ย. 67 รวม 8 ครั้ง จนหมดเกลี้ยงบัญชีกว่า 338,000 บาท โดยยอดเงินที่สูญเสียไปทั้งหมด เตรียมไว้ไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินที่จำนองไว้ กระทั่งในช่วงเย็นของวันเดียวกันได้ตัดสินใจจบชีพต้วเอง

 

ต่อมาชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนจนทราบผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการหลอกลวงในเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย และติดตามจับกุมได้แล้ว 3 ราย อยู่ระหว่างการติดตามตัวส่วนที่เหลืออีก 2 ราย

พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการทั้ง 5 ราย มีการเปิดเป็นบัญชีธนาคารแบบปกติ และเปิดเป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์ดิจิตอล โดยพบว่าผู้เสียชีวิตโอนเงินบาทไปยังบัญชีคนร้าย และมีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีแถวที่ 2 เป็นบัญชีประเภทไฮบริด คือเป็นบัญชีเงินฝากธรรมดาและบัญชีเงินฝากสินทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ดิจิตอลในประเทศไทยและนอกประเทศไทย

 

โดยบัญชีประเภทนี้ จะเปลี่ยนจากเงิน Fiat (เงินสกุลตามท้องถิ่นนั้นๆ) เป็น สินทรัพย์ดิจิตอล โดยเงิน Fiat มิใช่เงินที่แลกเปลี่ยนในสินทรัพย์ดิจิตอล บัญชีม้าประเภทนี้ไฮบริด มักจะเปิดสินทรัพย์ไว้หลายศูนย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการอายัดเงิน ของเจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งความ 1441 

 

อีกทั้งสามารถที่จะเปลี่ยนเงินและยังใช้เงินของผู้เสียหายได้อยู่ถึงแม้บัญชีเงินฝากของคนร้ายคนนั้นจะโดนอายัด มีข้อสังเกต คือ ผู้ใช้ที่ผูกไว้กับไว้กับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลฯ ของคนร้ายยังคงใช้ได้อยู่ แม้จะถูกอายัด คนร้ายอาจเข้าวอทเลทคนอื่น นำสินทรัพย์ โอนไปยังบัญชีเงินฝากที่ไม่ได้ถูกอายัดเงิน

 

ถึงแม้ธนาคารแห่งแห่งประเทศไทย ออกข้อกำหนดการโอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้งหรือการโอนเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน จะต้องทำการสแกนใบหน้า ซึ่งแตกต่างกับสินทรัพย์ดิจิตอล ไม่ได้บังคับให้สแกนใบหน้า และจะมีกี่ธุรกรรมก็ได้ จึงทำให้ยากต่อการติดตาม

 

ทั้งนี้หากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล กำหนดให้มีการแสกนใบหน้าจะช่วยป้องกันการถูกหลอกเป็นเหยื่อได้ อีกทั้งการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล เป็นโลกไร้พรหมแดนเจอกันได้ทั่วโลก นี่คือสิ่งที่อันตราย และประกอบกับ พรก.ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงควรมีการแก้ไข มาตรา 3 นิยาม "ผู้ประกอบธุรกิจปัจจุบัน"

 

มีแค่สถาบันการเงินและบริษัทรับชำระเงิน อาจมีปัญหาว่าสามารถอายัดได้หรือไม่ ควรใช้ ป.อาญามาตรา 33(2) ปัญหาคือยังไม่มีกฎหมายรับรองเช่น ฝ่ายกฎหมาย บลจ. ติดต่อกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่มี Banki เพราะไม่ใช่ธุรกิจภายใต้ พรก.ฯ

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจับกุม นายธีรยุทธ อายุ 40 ปี สามีผู้เสียชีวิตและญาติ ได้ถือภาพถ่าย น.ส.สุดารัตน์ อายุ 28 ปี เดินทางมายังกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2

 

 

รวม 3 บัญชีม้า รับสแกนหน้าถอนเงินเหยื่อ \"แก๊งคอลเซ็นเตอร์\"

 

พร้อมนำกระเช้ามาขอบคุณทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ไม่ทอดทิ้ง ช่วยกันติดตามตัวคนร้ายมาได้อย่างรวดเร็ว ทางผบช.สอท. ที่ทราบว่าจะเกษียณอายุราชการใน 30 ก.ย. แต่ก็ห่วงใยประชาชน เร่งรัดสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาได้ ที่ผ่านมาสภาพจิตใจของครอบครัวแย่มาก แต่พอมาทราบว่าจับคนร้ายได้ก็ดีใจและโล่งใจมาก