svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดคนขับไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น รอผู้บาดเจ็บออกโรงพยาบาล ถึงสอบปากคำสาเหตุการตกสะพาน

จากกรณี พ.ต.ท.จิรายุ วงศ์สิงห์ สารวัตร(สอบสวน) สน.จรเข้น้อย รับแจ้งอุบัติเหตุ รถกระบะตกสะพานยกระดับโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง มีความสูงกว่า 10 เมตร เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

 

29 กันยายน 2567 ทีมข่าวลงพื้นที่ บริเวณทางขึ้น อยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

 

จากการสอบถาม ชาวบ้าน บอกว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวว่ามีรถขึ้นไปบนสะพานแล้วตกลงมา ตนเองก็ตกใจและบอกว่า ปกติแล้วทางขึ้นดังกล่าวจะมีการเปิดช่องไว้สำหรับทางเข้า-ออก เพื่อให้คนงานขับรถเข้าไปทำงาน โดยจะใช้ด้วยแบริเออร์ยางกั้นเป็นทางเข้า-ออก แต่บ้างครั้งก็เปิดแบริเออร์ทิ้งไว้ (กองไว้ข้างๆทางเข้าออก โดยไม่ได้กั้นปิดทางให้เป็นเป็นกิจจะลักษณะ)  

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

 

 

ซึ่งก่อนที่จะถึงจุดเข้า-ออกดังกล่าว จะมีแบริเออร์ปูน ติดไฟเตือนไว้ด้านบน  กั้นแนวเขตก่อสร้างไว้ ส่วนไปส่องสว่าง ที่บริเวณดังกล่าวมีแต่อาจจะไม่สว่างมากนัก แต่ก็พอให้เห็นทาง ซึ่งเมื่อ 2-3 วันมานี่ ตนสั่งเกตุว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปิดทางเข้า-ออก

 

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

อาจจะเป็นเพราะมีคนงานวนเวียนเข้ามาทำงานในพื้นที่อยู่ตลอด ซึ่งถ้าคนพื้นที่จะรู้กัน แต่ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่ก็อาจจะหลงเข้าไปก็ได้  และเมื่อช่วงเช้ามึดมีเจ้าหน้าที่นำ แบริเออปูนและไฟเตือนสัญญาณมาวางด้านในบริเวณทางขึ้นสะพานอีกด้วย 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

ขณะที่ พ.ต.อ.พรรณลบ สำราญสม ผกก.สน.จรเข้น้อย บอกว่า เบื้องต้นคนเจ็บทั้ง 3 คน ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส เบื้องต้นสอบถามยังให้การไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนขับ ต้องรอให้ออกจากโรงพยาบาลถึงจะสอบปากคำได้ และตำรวจได้ประสานไปยังกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของไซด์งานก่อสร้าง ที่ดูแลช่วงเวลาเกิดเหตุมาสอบปากคำตอนนี้อยู่ระหว่างการประสาน 

 

 

ทั้งนี้ จากากรรายงารข่าวบอกว่า ผู้บาดเจ็บได้ขับรถกระบะมาจากบริเวณทางขึ้นสะพาน โดยไม่ได้เห็นมีป้ายกั้นหรือป้ายห้ามขึ้น ขับวิ่งขึ้นมาระยะทางกว่า 500 เมตร โดยไม่ทราบว่าบนสะพานสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เพราะบนสะพานมีความมืดมาก จึงทำให้รถพุ่งเหินพลัดตกลงจากสะพาน ลงกระแทกกับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อที่จอดอยู่ด้านล่าง 

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนช่วงที่เกิดเหตุ มีคนงาน ที่ทำงานด้านไฟฟ้า เข้ามาในพื้นที่ เพื่อลงไปยังบ่อพักสายไฟ ทำให้มีการเปิดช่องทางเข้า-ออก และไม่ได้มีการปิดช่องทางดังกล่าว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว กลับอ้างว่าไม่รู้เรื่อง และไม่ทราบรายระเอียดถึงอุบัติเหตุดังกล่าว 

 

ต่อมา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่า สภาพเส้นทางบริเวณทางขึ้นสะพานดังกล่าว มีป้ายบ่งบอกว่าเป็นเขตก่อสร้าง และมีแบร์ริเออร์และกรวยสีส้มกั้นเป็นแนวมาตลอดทางตั้งแต่ก่อนถึงทางเข้าจุดเกิดเหตุ และพื้นผิวถนนบนสะพานก็ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จดี ยังมีรอยต่อรอยเชื่อม อีกทั้งปลายทางก็มีแบร์ริเออร์ปูนกั้นตลอดแนว 

 

 

กระบะตกสะพาน สูง 10 เมตร ย่านลาดกระบัง เจ็บ 3 ราย คาดไม่เห็นป้ายห้ามขึ้น

 

 

ช่วงที่เกิดเหตุ มีการเปิดช่องเพื่อให้รถของผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ไปปฏิบัติงาน ทำให้รถของผู้บาดเจ็บอาจเข้าใจผิดขับขึ้นไปบนสะพาน และอาจขับมาด้วยความเร็ว ไม่ทันเห็นแบร์ริเออร์ที่สุดปลายทาง ทำให้ชนและข้ามคานเหล็กพุ่งลงไปด้านล่าง ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจมาจากการเป็นคนนอกพื้นที่ โดยทราบว่ามาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังนั้นเบื้องต้นก็ได้สั่งการให้ผู้รับเหมาติดตั้งป้ายและไฟเตือนก่อนถึงจุดเกิดเหตุ 500 เมตร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้ผู้รับเหมาโครงการเข้าไปพูดคุยกับผู้บาดเจ็บเรื่องการช่วยเหลือเยียวด้วย

 

 

ด้าน นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับตำรวจ ได้รับแจ้งว่า ผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ หรือเจาะเลือดตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ดังนั้นตามกฎหมายสามารถสันนิษฐานไว้ก่อนได้ว่าอาจเมาแล้วขับ ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนขยายผลต่อไป