svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

อดีต ผบห.ธนาคาร หอบสังขารป่วยติดเตียง ร้องกองปราบ ถูกหลอกลงทุน

"จ่าคิงส์" พาอดีตผู้บริหารธนาคาร ป่วยติดเตียงเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง มาร้อง กองปราบ ช่วยตามคดี หลังโดนหลอกลงทุนสูญเงินกว่า 5 ล้าน คดีไม่คืบ

วันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. "จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พา นายถาวร (ขอสงวนนามสกุล) อดีตผู้บริหารฝ่ายวิชาการ ธนาคารทหารไทย-ธนชาติ อายุ 57 ปี ป่วยติดเตียง เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเดินไม่ได้ ต้องนั่งและนอนเตียงผู้ป่วยของ รพ.ราชวิถี มาร้องทุกข์แจ้งความ บก.ปอศ. หลังจากโดนหลอกลงทุนสูญ 5ล้าน แจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า 

น.ส.จรุญนีย์ เปิดเผยว่า สามีของตนจะเกษียณแล้ว และได้ป่วยกระทันหัน จึงสนใจจะนำเงินก้อนที่เก็บมาทั้งชีวิต กับเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ทางธนาคารมอบให้ไปลงทุน ซึ่งในวันที่ 18 มิ.ย. 2567 สามีตนได้ไปกดถูกใจเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ ( HSH  GOLD Futures Online )" เพียงแค่กดถูกใจ แอดมินเพจก็ทักมาทางแมสเซนเจอร์เฟซบุ๊ก และสอบถามเรื่องการสนใจลงทุนแบบไหน จากนั้นจึงขอเบอร์เพื่อแอดไลน์ และมีคนทักไลน์มาบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และพาเทรด 

โดยอันดับแรก มิจฉาชีพทำการสร้างบัญชีให้เป็นชื่อของสามีตน เพื่อให้เห็นยอดเงินเข้าว่ามีเงินเข้าจริงๆ ซึ่งครั้งแรกที่ลงทุนไปมีการถอนได้เงินจริง หลังจากนั้นจึงพาเทรด 2-3 ครั้ง แล้วพาเข้ากลุ่ม เพื่อเทรดเป็นกลุ่ม ซึ่งการลงทุนในแต่ละครั้งมีการให้โอนเงินเข้าเพิ่มตลอด โดยบัญชีที่โอนเงินเข้าไปนั้น เป็นชื่อบุคคธรรมดาทั้งหมด และมียอดเงินแสดงเพิ่มขึ้นที่บัญชีที่ทำไว้เรื่อยๆ โดยระหว่างทางไม่สามารถถอนได้ 

ซึ่งมิจฉาชีพจะอ้างว่า ยังเทรดไม่ครบ หากเทรดครบแล้วจึงจะพาถอนเงิน แต่ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมก่อน โดยผู้เสียหายมีการเสียค่าธรรมเนียมให้ไป แต่พอจะถอนจริงก็ถอนไม่ได้ ทางมิจฉาชีพแจ้งว่าต้องเสียภาษีเพิ่มอีก สามีตนก็ได้โอนเสียภาษีไป

อดีต ผบห.ธนาคาร หอบสังขารป่วยติดเตียง ร้องกองปราบ ถูกหลอกลงทุน

โดยครั้งสุดท้ายที่เสียภาษีไปนั้น ทางมิจฉาชีพก็แจ้งว่า ยังไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากทางสามีตน ได้เขียนข้อความในบันทึกช่วยจำที่สลิปการโอนเงินไม่ตรงกับที่มิจฉาชีพบอก ซึ่งขบวนการดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการอยู่ 3 ส่วนด้วยกันคือ

  1. แอดมินเพจ 
  2. คนพาเทรดหุ้น  
  3. เพื่อนร่วมเทรด 

น.ส.จรุญนีย์ กล่าวอีกว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเดียว เมื่อตนทราบว่าสามีของตนถูกหลอก จึงได้โทร 1441 เพื่อแจ้งความ ทาง 1441 ก็ให้ตนเดินทางเข้าแจ้งความในพื้นที่สถานีตำรวจที่ตนสะดวก ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ. บางบัวทอง แต่ทาง สภ.บางบัวทอง ได้แจ้งว่าจะส่งเรื่องไปที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ตามทะเบียนบ้านตน แต่เมื่อส่งไปแล้วทาง สภ.ลาดหลุมแก้ว ก็ตีกลับมาที่ สภ.บางบัวทอง ตนจึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องกองปราบในวันนี้ เพื่อติดตามและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป