26 กันยายน 2567 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่(ป) จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัยผบ.หมู่(สส.)และ ส.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรหมสุข ผบ.หมู่(สส.) สน.เพชรเกษม
ร่วมกันจับกุมตัว นายธนกฤต หรือแป๊ะลาย อายุ 41 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่850/2567 ลงวันที่24 กันยายน 2567 ฐานความผิด "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้น โดยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม"
พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักพรทวีอพาร์ทเมนท์ ซอยเพชรเกษม58 แยก17 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.กรวรรณ อายุ38ปี เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ ซอยบางแค14 แขวงและเขต บางแค กรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจงาม รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม ว่า ช่วงกลางดึกได้ถูก คนร้ายเป็นชาย สักยันต์เต็มตัว ใช้ไขควงงัดประตูกระจกของร้าน เข้าไปขโมยเอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือของลูกค้าที่นำมาซ่อม จำนวน 8 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง แท็ปเล็ต ipad gen9wifi 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iphone11 1เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ realme 9 proplus 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ redmi note10 1เครื่อง โมเดลสินค้าตัวโชว์อีก 30 ตัว แล้วหลบหนีไป จึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ปราโมทย์ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนจรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทำให้เห็นลายสักเต็มตัว ซึ่งตรงกับนายธนกฤต ที่เคยมีประวัติถูกจับที่สน.เพชรเกษม ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ จึงไล่กล้องตลอดเส้ยทางหลบหนี จนกระทั่งตามไปรวบตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายแป๊ะลาย ให้การว่า เพิ่งออกจากคุก ในข้อหาลักทรัพย์มาได้ 1 ปี เริ่มคบหากับแฟน ซึ่งเป็นลูกของเพื่อนพ่อ เคยไปสมัครงานที่บริษัทแฟน แต่ก็ถูกไล่ออก เพราะขาดงานบ่อย ช่วงนี้จึงตกงาน ช่วงทำงานได้รู้จักกับนายไท เป็นคนลาว สนิทกัน จึงชวนกันมาก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านโทรศัพท์ ซึ่งร้านค้าต่างๆมักไม่มีรั้วรอบขอบชิดและไม่มีคนนอนเฝ้า โดยตนกับนายไทจะขี่รถจยย. ตระเวนดูเป้าหมายที่แน่ใจได้ว่า ไม่มีคนอยู่แน่นอน จะตัดกุญแจบ้าง ปีนเข้าด้านหลังบ้าง เข้าไปลักทรัพย์ หากได้สิ่งของมีค่าก็จะเอาไปขายในตลาดมืด นำเงินมาแบ่งกัน ส่วนตนนำไปซื้อยาไอซ์เสพ ส่วนนายไท เดินทางกลับประเทศลาวไปแล้ว ชีวิตตนเกิดมาอาภัพก่อเหตุลักทรัพย์ตั้งแต่เด็ก ติดคุกครั้งแรกอายุ 13 ปี และติดต่อมาเรื่อยๆอีกหลายคดี เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น
จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบปี 60 ต้องคดีลักทรัพย์ สน.เพชรเกษม ปี 63 คดีลักทรัพย์ สน.บางขุนเทียน 2 คดี ปี 66 คดียาเสพติด สภ.คูคต ปี66 คดีลักทรัพย์ สภ.คูคต ปี 67 คดีลักทรัพย์ สน.หนองแขม และคดีลักทรัพย์ที่ สน.ภาษีเจริญ
หากโรงพักใดสงสัยว่านายธนกฤตลงมือก่อเหตุในพื้นที่ ก็สามารถนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายมีรอยสักเต็มตัวชัดเจน และใบแจ้งมาขออายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปได้เลย