4 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ. สมเกียรติ โฉมฉาย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นำกำลังรุดเข้าตรวจสอบ บริเวณถนนกลางหมู่บ้าน ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
หลังได้รับแจ้งเหตุว่า มีลูกชายเกิดอาการคุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้มีดฟัน ทำร้ายแม่เสียชีวิต พร้อมทั้ง ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลชะอำ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชรธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี ร่วมสนับสนุน
ที่เกิดเหตุพบชายวัยกลางคน ไม่สวมใสเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น สีดำ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ข้างศพแม่ที่นอนเสียชีวิต คร่อมรถจักรยานยนต์ ล้มอยู่กลางถนน โดยมีดอีโต้และจอบวางอยู่ข้างตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมพื้นที่ ผู้ก่อเหตุมีอาการประสาทหลอน นั่งพูดคนเดียวอยู่ตลอดเวลา และท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปดำเนินการจับกุมตัว
ทราบชื่อต่อมาคือ นายนวพล (สงวนนามสกุล) หรือตี๋ อายุ 38 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นมารดาของผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ น.ส.พิศวง (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี มีบาดแผลบริเวณศีรษะ นอนเสียชีวิต
ต่อมาตำรวจได้นำบุคคลที่สนิทคุ้นเคยของผู้ก่อเหตุ มาทำการเจรจาเกลี้ยกล่อม ใช้เวลากว่า 20 นาที นายนวพลฯ ได้ยินยอมและเดินเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่ยังคงอยู่ในอาการคุ้มคลั่งตลอดเวลา โดยได้มีกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตเข้ามารุมทำร้ายด้วยความโมโห แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันออกไปนอกพื้นที่
เบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ด้าน นางไฟ (สงวนนามสกุล) ป้าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุกับแม่มักไม่ค่อยถูกกัน และมักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ พักหลังผู้ก่อเหตุได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนสติประสาทหลอน โดยก่อนเกิดเหตุ แม่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาตามผู้ก่อเหตุให้กลับไปบ้าน กระทั่งผู้ก่อเหตุใช้มีดและจอบตี ทำร้ายแม่จนเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ. สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุได้สั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยใช้วิธีการเจรจากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็เป็นผลดีกับทุกฝ่าย สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด