svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น

29 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ศึกสีกากี" ยังคงร้อนระอุ แม้ว่าจะมีการโยกย้าย 2 บิ๊กตำรวจ ช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวปมเส้นทางเงินโยงคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกหมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบที่ 3 "Nation STORY" สรุปครบตั้งแต่เริ่มต้น ต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

จากกรณี พนักงานสอบสวนชุดทำคดี เว็บพนันออนไลน์ BNK Master พยายามออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หลังจากปรากฏข้อมูลเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าว ถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถส่งหมายเรียกได้ และ "บิ๊กโจ๊ก" ยังไม่มีการเดินทางเข้าให้ปากคำ หรือรับทราบข้อกล่าวหากับคณะพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีการแถลงข่าวทั้งของทีมทนายความของบิ๊กโจ๊ก และ "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเส้นทางการเงินเพิ่มเติมว่า มีความเชื่อมโยงกับตำรวจอีกจำนวนมาก แต่กลับเหมือนถูกเลือกปฏิบัติดำเนินคดีเฉพาะบางบุคคล กระทั่งเกิดวลี "อินทรีย์เลือกเหยื่อ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการแฉเส้นทางการเงินถึงคนนามสกุลเดียวกับ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.

ความเคลื่อนไหวล่าสุด พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียกรอบที่ 3 กับ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กำหนดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 เม.ย.2567 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 
สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น

เปิดที่มา ศึกสีกากี โยงเส้นทางเงินเว็บพนัน
ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ ตำรวจ PCT บุกจับกุมเครือข่ายเว็บพนัน กระทั่งวันที่ 28 ก.ค.66 ได้ขยายผลจับกุม น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ "มินนี่" หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ยึดบัญชีธนาคาร 89 เล่ม ขยายผลผู้มีส่วนเกดี่ยวข้องเป็นพลเรือน 15 คน และตำรวจ 8 นาย

ต่อมานำไปสู่การออกหมายจับตำรวจ 8 นาย คนสนิทของ "บิ๊กโจ๊ก" ซึ่งพบว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ รองผบก.สส.ภ.4 คณะทำงานของบิ๊กโจ๊ก มีหลักฐานเส้นทางการเงินพัวพันเว็บพนันออนไลน์ มีภาพถ่ายรูปคู่แนบชิดกับ "มินนี่" 

กระทั่งเกิดข่าวใหญ่ เช้าวันที่ 25 ก.ย.2566 เมื่อ ตำรวจ PCT นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าไปขอตรวจค้นและจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ โดยมีการสนธิกำลังตำรวจคอมมานโด พร้อมอาวุธปืน และตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจ สอท.รวม 8 ชุด ตรวจค้นเป้าหมายพัวพันเส้นเงินจากเว็บพนัน

เป้าหมายภายในหมู่บ้านแห่งนี้ มี 5 หลังที่เข้าตรวจสอบ หลังแรกเป็นบ้านทาวน์โฮม 2 หลังติดกัน ซึ่งเป็นที่พักของนายตำรวจติดตามของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หรือ บิ๊กโจ๊ก โดยเจ้าตัวอยู่บ้านและได้ออกมาหน้าบ้านในสภาพชุดนอน เสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น ถุงเท้าสีขาว แสดงท่าทีไม่พอใจ พร้อมตำหนิชุดพนักงานสอบสวน และชุดที่มาตรวจพร้อมกับไล่ให้กลับไป ร้องขอให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมตรวจค้นด้วยตัวเอง
ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก"

"บิ๊กโจ๊ก" โต้เข้าค้นบ้าน หวังดิสเครดิต
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เชื่อว่า การบุกค้นเป็นเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และยืนยันว่าตนเองไม่เคยเกี่ยวข้องกับการพนัน

“วันนี้มันก็ต้องรับแรงกระแทกในแบบนี้ มันเป็นการเมืองภายใน ตร. ท่านเชื่อไหมว่า วันนี้จะค้นบ้าน รอง ผบ. ได้โดยไม่มีความผิด ตั้งนานทำไมไม่เกิด ทำไมมันมาเกิดช่วงนี้ การค้นบ้านผมก็เพื่อให้ผมเสียเครดิต” 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุถึงสาเหตุอาจจะมาจากการที่ตนทำคดีสำคัญหลายคดี เช่น คดีกำนันนกยิงนายตำรวจทางหลวง และคดีผู้บังคับการตำรวจจังหวัดชลบุรีเรียกรับเงิน 140 ล้าน ทำให้กระทบกระทั่งเจ้าหน้าที่หลายส่วน

ทั้งนี้ ในหมายค้นบ้าน ไม่มีชื่อบิ๊กโจ๊ก การขอหมายค้นเป็นการขอโดยไปหลอกศาลโดยไม่สุจริต การขอหมายค้นในครั้งนี้เป็นการขอเพียงแค่บ้านเลขที่เท่าไหร่ แต่ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านของบิ๊กโจ๊ก ทั้งที่ตำรวจทั้งหมดรู้ว่าคือบ้านใคร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การเข้าค้นไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งการจะค้นบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต้องมีพยานหลักฐาน มันต้องมีเส้นเงิน วันนี้ไม่มีอะไรเลย ส่วนตำรวจที่ถูกควบคุมตัวในบ้านพัก เป็นตำรวจชั้นประทวนที่ช่วยทำงานให้เท่านั้น
สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น
ขอศาลออกหมายจับ คดีเว็บพนัน BNK Master 
หลังจากการค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" คลื่นลมสงบได้เพียงไม่นาน เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2567 พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอออกหมายจับกลุ่มนายตำรวจระดับสูง ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามพรบป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5, 9,10

มูลเหตุการขอออกหมายจับ เนื่องจากการสวนสอบสวนเส้นเงินที่เชื่อมจากคดีเว็บ BNK Master ที่ สน.เตาปูน เคยขออนุมัติหมายจับ คดีเว็บการพนัน ที่ 4543-4547/2566 ของศาลอาญาไว้แล้ว ต่อมาได้จับกุมตัวผู้ต้องหาบางคนได้ ปรากฎชื่อ นางพิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) เป็นผู้จัดการเว็บ BNKMaster จึงมีการมาขยายผลเเละมาร้องขอออกหมายจับในครั้งนี้

ภายหลังยื่นคำร้อง พล.ต.ต.ทินกร ยอมรับว่า มีการขอออกหมายจับกลุ่มนายตำรวจพัวพันเว็บพนันจริง โดยศาลอนุญาตออกหมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย เเยกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย เเละพลเรือน 1 ราย ส่วนนายตำรวจอีก 1 คนให้ออกหมายเรียกก่อน ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับนายพล เเต่ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร 
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.
ออกหมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" ครั้งที่ 1
หลังจากศาลอนุมัติหมายจับ 3 ตำรวจ และ 1 พลเรือน และทั้ง 4 รายเข้ามอบตัว ให้การปฏิเสธ ได้รับการประกันตัวออกไปในชั้นพนักงานสอบสวน กระทั่งวันที่ 17 มี.ค.67 ตำรวจชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ได้ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. โดยนำหมายเรียกของชุดสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลไปลงบันทึกประจำวันไว้ สน.ทุ่งสองห้อง และให้ ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งบ้านพักของบิ๊กโจ๊กอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินการนำหมายเรียกไปส่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่บ้านพักภายในซอยวิภาวดี 60

ทั้งนี้ หมายเรียกดังกล่าว ในฐานะผู้ต้องหาในคดี ตามข้อหา สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน เว็บไซต์พนันออนไลน์ และให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันพฤหัสบดีที่ 21 มี.ค. 2567 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) ซึ่งการส่งหมายเรียก ไม่สามารถส่งถึงมือ "บิ๊กโจ๊ก" ได้ เนื่องจากเจ้าตัวอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อยู่ทางภาคเหนือ

บิ๊กโจ๊ก ออกมาตอบโต้ว่า การออกหมายเรียกไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการสอบสวนไม่ถูกต้อง พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เนื่องจากสำนวนคดี "มินนี่" อยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว เป็นความพยายามที่จะดิสเครดิต

สอดรับการแถลงข่าวของทีมทนายของบิ๊กโจ๊ก ที่ยืนยันว่า คดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master เป็นคดีที่มีเส้นเงินเดียวกับคดี "มินนี่" ซึ่งพนักงานสอบสวนพยายามแยกออกมาเป็นคนละคดี เพื่อจะออกหมายจับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พยายามจะดิสเครดิต "ว่าที่ผบ.ตร." ให้ได้ ทั้งๆที่เส้นทางการเงินไม่มาถึงโดยตรง และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด

ทีมทนายของบิ๊กโจ๊ก ยังได้ตั้งข้อสงสัยด้วยว่า มีความจงใจจะเอาผิดเฉพาะบางกลุ่ม และไม่ยอมดำเนินคดีกับตำรวจบางกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เปรียเปรยว่าเป็นพฤติกรรม "อินทรีย์เลือกเหยื่อ"

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ออกมาระบุว่า คดีที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบเป็นคดีเว็บพนันมินนี่ ซึ่งเป็นคนส่วนกับคดี BNK Master ในพื้นที่ สน.เตาปูน แต่ก็คดีนี้ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา สามารถปฏิเสธหรือโต้แย้งได้ ซึ่งตนเองพร้อมลงนามในคำสั่งพักราชการ หาก "บิ๊กโจ๊ก" ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา

ปมร้อนนี้ได้กลายเป็นเรื่องที่บานปลายมากขึ้น!!
ทีมทนายของบิ๊กโจ๊ก ระบุมีความพยายามดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
คำสั่งเด้ง "บิ๊กต่อ-บิกโจ๊ก" สงบศึกสีกากี
ช่วงเช้าวันที่ 20 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกให้ "บิ๊กต่อ" และ "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบ ท่ามกลางกระแสข่าวให้สงบศึกสีกากี 

จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงข่าวที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศยืนยัน ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว หรือ ขัดแย้งภายในองค์กร ปมคดีเว็บพนันออนไลน์ วอนสื่ออย่าเสนอข่าวไปในทางที่ทำให้องค์กรแตกแยก

หลังจากภาพสงบศึกสีกากีผ่านไปไม่นาน ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้ายฟ้าผ่าให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ามามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมมีคำสั่งมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผบ.ตร. รักษาการ 
สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น
หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" ครั้งที่ 2 เติมน้ำมันในกองไฟ 
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.67 บิ๊กต่อ และ บิ๊กโจ๊ก เข้ารายงานตัวที่สำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยท่าทีเอื้ออาทรกัน ดูเหมือนศึกสีกากีสงบลงแล้ว ซึ่งในวันดังกล่าวเป็นวันกำหนดเข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ของบิ๊กโจ๊ก สถานการณ์ดูเหมือนจะสงบศึกลงได้แล้ว 

ในช่วงเย็นวันนั้น พนักงานสอบสวนคดี "BNK Master" ได้ออกหมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" ครั้งที่ 2 ให้เหตุผล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนดหมายเรียกครั้งที่ 1 โดยให้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 มี.ค.67 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เวลา10.00 น.

ช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค.67 ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง นำหมายเรียกไปที่บ้านพักย่านซอยวิภาวดี 60 นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้ส่งหมายเรียกไปสถานที่ทำงานคือ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการ รวมถึงบ้านที่จังหวัดสงขลา มีความพยายามส่งมอบหมายเรียกให้เจ้าตัวให้ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยถึงหมายเรียกครั้งที่ 2 ว่า ไม่ทราบว่าจะมีการนำหมายเรียกมาที่บ้าน เนื่องจากได้ลาพักผ่อนตั้งแต่ 22 มี.ค. จนถึง 1 เม.ย. เป็นการลาไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งขณะพนักงานสอบสวนนำหมายเรียกไปส่งนั้น เดินทางมาถึงจังหวัดหนองคายเรียบร้อยแล้ว มีกำหนดไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ประเทศอังกฤษ 

การออกหมายเรียกในครั้งที่ 2 สะท้อนภาพ ศึกสีกากี ยังไม่จบ แม้จะมีการประกาศเซตซีโรแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งคำถามกลับว่า ให้สื่อฯไปคิดดู โดยส่วนตัวพร้อมถอนฟ้อง ไม่มีปัญหา อเพียง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นัดพูดคุยกับทุกคน ยืนยันเปิดใจกับทุกคน ในเมื่อจบก็คือจบ 

“สังคมจะเห็นเองมีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ วันนี้ทุกคนต้องสามัคคี ตนเองเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แล้ว สื่อฯก็ต้องไปดูว่าควรทำแบบไหน”

สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น
"ทนายตั้ม" แฉบิ๊กตำรวจ เพื่อชาติ หรือเพื่อใคร?

การออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพียงไม่นาน "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งถูกมองว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับ "บิ๊กโจ๊ก" ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์ "BNK Master" และ "VENUS Master" มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับคนในครอบครัว "บิ๊กตำรวจ" และ 3 หน่วยงาน ที่มีการเรียกรับผลประโยชน์มหาศาลผ่านบัญชีม้า ได้แก่ 

  • กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด
  • กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) 
  • กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ 

ประเด็นสำคัญในการแฉของทนายตั้ม สอดคล้องกับข้อมูลจากทีมทนายของบิ๊กโจ๊ก แต่เป็นขยายผลเส้นทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งไปถึงคนนามสกุล "สุขวิมล"

พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดยังไม่มีดำเนินคดีกลับกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งล่าสุดได้นำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ซึ่งมีหน้าที่เป็นโฆษกคณะทำงานคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ และ BNK Master เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด
สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น
การแฉของ "ทนายตั้ม" พุ่งเป้าไปที่ฝั่ง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำไปเพราะใกล้ชิดบิ๊กโจ๊ก แต่เป็นข้อมูลที่ตำรวจและสายลับบางคนส่งมาให้ เนื่องจากทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว 

ขณะที่ "บิ๊กต่อ" ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ว่า ไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา โดยจะให้ทนายเป็นคนความดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทีมทนายระบุว่า 

“เรื่องนี้ประเด็นหลัก คือเรื่องที่มาของเอกสารเป็นสิ่งสำคัญว่าได้มาอย่างไร เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเอาข้อมูลของใครมาเปิดก็ได้ ข้อมูลที่ได้มาเป็นของจริงหรือไม่ ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตรงนี้ต้องตรวจสอบก่อน ไม่ใช่ว่าใครนำอะไรมาเสนอ ก็เชื่อไปหมดว่าต้องเป็นไปตามนั้น ตรงนี้ต้องระมัดระวังนิดนึง ยิ่งข่าวที่ออกไปตอนนี้ ทำให้บิ๊กต่อได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เราจึงต้องแก้ไขตรงนี้”

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" ครั้งที่ 3 จะเกิดอะไรต่อจากนี้
หลังจาก พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master พยายามออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่เป็นผล บิ๊กโจ๊ก ยังไม่มีการเดินทางเข้าให้ปากคำ หรือรับทราบข้อกล่าวหากับคณะพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนในคดีมีมติดำเนินการ "ออกหมายเรียกครั้งสุดท้าย" เป็นการออกหมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" ครั้งที่ 3  โดยการออกหมายเรียกดังกล่าว จะต้องดำเนินการส่งหมายเรียกให้กับตัวบิ๊กโจ๊กด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้ในส่วนของหมายเรียกดังกล่าว มีการส่งไปถึงผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับหมายเรียกครั้งที่ 3 กำหนดเรียกเข้าพบในวันที่ 1 เม.ย.67 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ "บิีกโจ๊ก" เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในกรุงเทพ โดยหากไม่มีการเดินทางเข้าตามนัดหมายของหมายเรียกครั้งที่ 3 คณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการนำเสนอต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับ "บิ๊กโจ๊ก" ต่อไป

"ศึกสีกากี" เป็นมหากาพย์ที่สั่นสะเทือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่า มีภาพลักษณ์ด้านลบทั้งสองฝ่าย บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร คงอีกไม่นานเกินรอ!!
สรุปครบจบที่นี่ หมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" รอบ 3 หากไม่รับทราบข้อหาจะเกิดอะไรขึ้น

logoline