3 ธันวาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี สื่อดังในเยอรมนี ตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คนจ่ายสินบน 1 ล้านบาทแล้วหลบหนีได้ โดยระบุว่า คดีนี้เกิดในพัทยาได้มีการสั่งให้จับกุมและขยายผล ซึ่งเดิมเรื่องนี้เกิดจากกรมการปกครองเข้าไปจับกุมการค้าประเวณีเด็ก พบว่ามีชาวเยอรมันสองคนเป็นผู้ใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้งสองคน
ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฏหมาย ต่อมา ทราบว่าศาลให้ประกันตัว ซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือตม. ก็ได้ขึ้นแบล็คลิสต์ไว้แล้ว ว่าห้ามออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ศาลจึงอนุญาต เมื่อศาลอนุญาตก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
กรณีนี้ส่วนของตำรวจ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ เพราะถ้าตามระเบียบแล้วทันทีที่มีการจับกุมชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนต้องแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ทราบ เพราะหากประกันตัวออกมาแล้วจะต้องถูกควบคุมตัวที่ห้องขังของ ตม. ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนของสภ.พัทยา มีการรายงานตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.66) ก็จะทราบผล และจะแถลงข่าวในวันที่ 5 ธ.ค.66 ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียหาย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาชาวต่างชาติเดินทางออกนอกประเทศแล้ว จะสามารถเรียกตัวกลับมาได้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องนี้อัยการสั่งฟ้องแล้ว จากการตรวจสอบ อัยการก็คัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ให้ประกันตัว และศาลอนุญาตให้ออกนอกประเทศ เขาจึงมีสิทธิ์ออกนอกประเทศ แต่ตามขั้นตอนแล้วต้องกลับมาขึ้นศาล ตำรวจทราบว่าสัปดาห์หน้ามีกำหนดการขึ้นศาล แต่หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นหมายแดง (อินเตอร์โพล)
ส่วนตำรวจถือว่าบกพร่องหรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวน ได้รายงานไปที่ สตม.หรือไม่ เพราะกรณีชาวต่างชาติถูกจับประกันตัวในชั้นโรงพักไม่ว่าจะประกันตัวในชั้นโรงพักหรือชั้นศาล ก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังของ ตม. ไม่สามารถออกไปเพ่นพ่านได้ แต่ถ้าพนักงานสอบสวนไม่รายงานการจับกุมไปที่ สตม. ทางศาลก็ไม่ทราบเรื่อง คดีนี้คล้ายกับผับจิ้นหลิง เมื่อไม่มีการแจ้งไปยังสตม. ผู้ต้องหาก็ออกมาเดินเพ่นพ่านได้
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ารับสินบน วันนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย หากพบความผิดก็ต้องดำเนินคดี พร้อมยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดรายบุคคลไม่ใช่กระบวนการ เพราะเป็นเรื่องของการซื้อบริการไม่ใช่เรื่องของการค้ามนุษย์
เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตำรวจทำดีก็มีเยอะ แต่ทำไม่ดีก็มีเยอะ ดังนั้นต้องแยกน้ำเสียออกจากน้ำเสียให้ได้ ตำรวจคนไหนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ในสถานการณ์ปัจจุบันตำรวจต้องปรับพฤติกรรม วันนี้ระบบตรวจสอบมีเยอะไม่เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ผู้กระทำผิดกลับไปอยู่เยอรมันก็ยังโพสต์ได้เลย ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ถ้าพบความผิดก็ต้องดำเนินคดี