22 กันยายน 2566 ความคืบหน้าคดี นายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือ “เอ็ม” ก่อเหตุฆ่าลูกชายและลูกสาว 4 คน ก่อนร่วมกับ น.ส.สุนัน นำศพลูกสาววัย 2 ขวบ ไปฝั่งโบกปูน ภายในบ้านพัก ที่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้คุมตัว นายเอ็ม และ น.ส.สุนัน ไปฝากขังต่อศาล พร้อมเตรียมเพิ่มข้อหา "ค้ามนุษย์” กับนายเอ็มและภรรยาที่ร่วมฆ่าลูกโบกปูน หลังพบหลักฐาน การนำลูกสาวที่พิการ “ปากแหว่ง เพดานโหว่” เปิดรับบริจาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ขณะที่ น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ที่มีลูกด้วยกันห้าคน และถูกนายเอ็ม ทำให้เสียชีวิต 4 คน โดย 2 ร่างที่พบศพยืนยันดีเอ็นเอ ตรงกับ นายเอ็มและ น.ส.เจษฎา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ
ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ น.ส.เจษฎา ถึงสาเหตุที่ไม่ยอมแจ้งความ กรณีที่นายเอ็มได้ฆ่าลูกตายถึง 4 คน ซ้ำร้ายยังช่วยเอาศพไปทิ้งด้วยนั้น เนื่องจากถูกนายเอ็มทำร้ายร่างกายเเละข่มขู่ จนเกิดความหวาดกลัว
ประกอบกับนายเอ็ม ยังเป็นรักแรก และรักเดียวของ น.ส.เจษฎา ซึ่งทั้งคู่พบรักกันบนรถไฟ ดังนั้น การที่นางสาวเจษฎา ทราบว่าลูกตาย แต่ไม่ยอมมาแจ้งตำรวจ ถึงแม้จะอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานาก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าว ถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ซึ่งจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย
มีรายงานว่า ระหว่างสอบปากคำ น.ส.เจษฎา มีอาการร้องไห้เสียใจ และขอไปทำบุญให้ลูก โดยได้ขอร้องผ่าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้พาไปวัดหรือจัดชุดสังฆทานให้ ซึ่งทางตำรวจก็อนุญาต
พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุเพิ่มเติมอีกว่า พฤติการณ์การใช้ชีวิตของนายเอ็ม คือ ไม่ได้ทำมาหากินอะไร เมียทั้งสองคนช่วยทำมาหากิน แล้วเอาเงินให้นายเอ็ม โดย น.ส.เจษฎา มีรายได้วันละ 500บาท ทำวานมาแบ่งให้นายเอ็ม วันละ 400 บาท และรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ น.ส.สุนัน เมียคนที่ 4 เป็นคนดาวน์ ส่วน น.ส.เจษฎา เมียคนที่ 2 เป็นคนผ่อน