22 กันยายน 2566 จากคดีนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือ “นายเอ็ม”ผู้เป็นพ่อ ก่อเหตุฆ่าลูกๆ 5 คน ในเขต จ.กรุงเทพฯ ก่อนนำไปฝังโบกปูน ที่ จ.กำแพงเพชร
ล่าสุด แหล่งข่าวในทีมสอบสวน เปิดเผยว่า “นายเอ็ม” ยืนยันพฤติกรรมและลักษณะนิสัยจากคำให้การของเจ้าตัวและคนใกล้ชิด โดยเฉพาะภรรยาทั้ง 2 คนว่า นายเอ็ม ไม่ทำงาน และไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ลักษณะไม่ใช่คนขยัน แต่จะใช้ผู้หญิงทำงานและหาเงินให้
จากคำให้การของ น.ส.เจษฎา 1 ในภรรยาของนายเอ็ม รับว่าทำงานรับจ้างรายวัน ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่นายเอ็มเก็บไว้ใช้เอง 400 บาท เหลือไว้ให้ตนเองและลูกแค่วันละ 100 บาทเท่านั้น
ส่วนเหตุที่นายเอ็มและภรรยาย้ายที่อยู่บ่อย “ทีมสอบสวน” ให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักคือมีปัญหากับเพื่อนบ้านข้างห้องเป็นประจำ ทั้งเรื่องการส่งเสียงดัง การทำผิดระเบียบของอาคารที่พัก นอกจากนั้นก็พยายามย้ายที่อยู่เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตหลังฆ่าลูกและนำศพไปทิ้ง
ส่วนที่บางฝ่ายแสดงความกังวลว่า จะเอาผิดนายเอ็มและภรรยาได้หรือไม่ เนื่องจากคำให้การมีลักษณะสับสน อาจไม่ตรงกับพยานหลักฐานที่พบ เช่น วิธีการฆ่า หากให้การไม่ตรงกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบ ทำให้พยานหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจเป็นแผนของนายเอ็มที่จงใจให้การ เพื่อให้เกิดความสับสน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(ผบก.สส. บช.น.) หนึ่งในแกนนำชุดคลี่คลายคดี ยืนยันว่า ไม่หนักใจกับคำให้การของนายเอ็ม และการแสวงหาพยานหลักฐานที่ค่อนข้างยากและซับซ้อน แม้เหตุการณ์จะเกิดมานานหลายปี แต่หลักฐานที่จะยืนยันความผิดของนายเอ็มและผู้เกี่ยวข้องจะใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก และเป็นการรวบรวมพยาน หลักฐานตามมาตรฐานสากล
ส่วนคำให้การของนายเอ็มนั้น ตำรวจรู้อยู่แล้วว่า มีลูกเล่น มีการล่อหลอกทีมสอบสวนและวางแผนให้หลุดคดี หรือรับโทษน้อยลง ฉะนั้น ชุดคลี่คลายคดีจึงแก้เกม ด้วยการสอบปากคำพยานแวดล้อมเอาไว้จำนวนมาก รวมถึงคำให้การของภรรยา 2 คน ที่อยู่กับนายเอ็มก่อนถูกจับ คือ เจษฎา และสุนัน
โดยคำให้การของ 2 คนนี้ จะเป็นจิ๊กซอว์เชื่อมกับคำให้การของนายเอ็ม พร้อมกับจะตรวจสอบย้อนกลับ หรือ “รีเช็ค” คำให้การของนายเอ็มด้วย เช่นเดียวกับพยานแวดล้อมคนอื่นๆ
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดว่า จะเอาผิดนายเอ็มและผู้เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นอน