ความคืบหน้าคดียิง "สารวัตรแบงค์" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หลังจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งโอนสำนวนคดีทั้งหมดมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เรียกประชุม 11 หน่วยงาน ภายใต้สังกัด บช.ก. ก่อนเปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจสอบสวนกลาง รับคดีฆาตกรรมสารวัตรแบงค์ และคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ของตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบสวนต่อแล้ว
พล.ต.ท.จิรภพ ยังกล่าวถึงประเด็นคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ของตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า พฤติการณ์ทั้งก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ พฤติการณ์ใดบ้างที่จะเข้าข่ายผิดในข้อกฎหมายนี้ ส่วนกรณี พ.ต.ท.ภทร วรญาวิศุทธิ์ หรือ สารวัตรไอซ์ ซึ่งกล้องวงจรปิดเห็นว่า สารวัตรไอซ์ ยกปืนขึ้นมา หลังจากได้ยินเสียงปืน แต่ไม่ได้ยิงไปที่บุคคลใด หรือเข้าไประงับเหตุ เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควร จึงอาจไม่เข้าข่าย ผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ
ยืนยันไม่ช่วยใคร ผิดถูกว่าตามพยานหลักฐาน ย้ำไม่ได้เป็นการเตรียมก่อเหตุ มั่นใจพยานหลักฐานที่มี เอาผิดผู้ต้องหาได้ แม้จะกู้วงจรปิดไม่สมบูรณ์
เนชั่นออนไลน์ พาไปย้อนสรุปตัวละครในคดีนี้ก่อนที่จะมีการโอนสำนวนมาอยู่ในความรับผิดชอบของ บช.ก. ทั้งตำรวจ และพลเรือน มีใครบ้างถูกดำเนินคดี และใครที่ไม่ถูกดำเนินคดี ดังนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกออกหมายจับและจับกุม จำนวน 6 นาย ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น, ร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ประกอบด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 จำนวน 13 ราย ประกอบด้วย
รายชื่อพลเรือนที่ถูกดำเนินคดี 10 ราย ประกอบด้วย
รายชื่อตำรวจที่ไม่ถูกดำเนินคดี 9 นาย ประกอบด้วย
"ผู้การเต่า" วอนขอความเป็นธรรมให้ "ผู้กำกับเบิ้ม"
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ตำรวจสอบสวนกลาง จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยจะนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น มายืนยัน โดยจะต้องมาไล่เลียงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หลังเสียงปืนดังขึ้น มีใครที่วิ่งหนี หรืออยู่ต่อแล้วทำอะไรบ้าง ส่วนใครจะเกี่ยวกับข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯ ก็จะมาตรวจสอบกันทีละนาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า วันเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และคุยกับคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน รวมทั้งพบเจอ ผู้กำกับเบิ้ม ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ สารวัตรแบงค์ และที่บริเวณแขน และเสื้อมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ รวมทั้งได้ช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์ ร่วมกับลูกน้องอีก 3 คน ออกจากพื้นที่ โดนอุ้มอยู่บริเวณข้อเท้า ก่อนไปสั่งการต่อ รวมทั้งนำ พ.ต.ท.วศิน พันปี ตำรวจที่บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล
อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับ ผกก.เบิ้ม ที่รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำไปแล้ว
กองปราบฯ ประชุมเครียด วางกรอบความชัดเจนเอาผิดตำรวจงานเลี้ยงบ้านกำนันนก
ล่าสุดวันนี้ (19 กันยายน 2566) พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีว่า วันนี้ช่วงเช้าชุดคลี่คลายคดีและพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมประชุมเพื่อวางกรอบให้ชัดเจนว่าจะมีการดำเนินคดีกับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงบ้านกำนันนกหรือไม่อย่างไร พร้อมย้ำว่าจะต้องดำเนินการตามหลักการของพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่เน้นย้ำเรื่อง "ข้อเท็จจริง" และ "พยานหลักฐาน" ว่า มีความชัดเจนขนาดไหน อีกทั้งยังต้องดูในข้อกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ จะต้องแบ่งแยกความผิดตามพฤติการณ์ของตำรวจแต่ละนายอย่างละเอียด โดยการไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งที่ประชุมหลักในวันนี้ คือ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งต้องรอดูว่าในช่วงบ่ายวันนี้ทิศทางจะเป็นอย่างไร โดย พล.ต.ท.จิรภพ จิรภพ ภูริเดช ได้สั่งให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานจากว่า หากมีความชัดเจนทิศทางของคดี คาดว่าจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าทางคดีในช่วงเวลา 13.00 น.
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของหยดเลือดที่ติดบนรองเท้าผู้กำกับเบิ้มด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะสามารถเชื่อมโยงได้ว่าในวันเกิดเหตุ ผู้กำกับเบิ้มเป็นคนช่วยสารวัตรแบงค์ ทำให้เลือดติดบนรองเท้าหรือไม่ และแต่จะช่วยในลักษณะไหนยังรอความชัดเจน