16 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 หลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสามารถกู้ภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ แต่ไม่ปรากฏภาพและรายชื่อ ผกก.พญาไท เป็นผู้ให้การช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี หรือ "รองวศิน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กฤษฎาพร มีสีหน้าเคร่งเครียด ตลอดการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งมีการอธิบายลักษณะเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยใช้โทรศัพท์มาอ้างอิงเพื่อยืนยันข้อมูลของตนเอง และมีบางช่วงที่หันหน้าทางมานักข่าวที่อยู่บริเวณหน้าประตู
ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. พ.ต.อ.กฤษฎาพร ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันดังกล่าวตนเองนั่งอยู่ที่ผังโต๊ะเดียวกับสารวัตรแบงค์ หลังเกิดเหตุยิงเป็นสั่งการลูกน้องให้ช่วยแบกสารวัตรแบงค์ ส่วนอีกคนให้ไปเตรียมรถ จากนั้นพลขับก็วนมารับตนเองไปรถอีกคันหนึ่ง
ยืนยันว่าตามไปโรงพยาบาล แต่ไปถึงช้าประมาณ 8 นาที เพราะลูกน้องพาหลงอยู่บริเวณทางแยกเพราะลูกน้องเลี้ยวผิด ส่วนที่บอกว่าตนเองหนีไปกับผู้หญิงหลังเสียงปืนนัดแรก ไม่เป็นความจริง ช่วยแก้ข่าวให้ด้วยเพราะเกือบเข้าบ้านไม่ได้
พ.ต.อ.กฤษฎาพร กล่าวอีกว่าขณะเกิดเหตุจากจุดที่นั่งอยู่เห็นตอนจังหวะยิง และเห็นชัดว่าเป็นนายหน่อง แต่ไม่ได้ยินว่าใครสั่ง ตอนเสียงปืนนัดแรกตนเข้าใจว่าเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้า ตำรวจแตกกระเจิง และตกใจ จากนั้นก็มีการหาว่าใครยิง พอนัดที่ 5 ก็เห็นสารวัตรแบงค์กำลังจะตกจากเก้าอี้ ก่อนที่ ด.ต.ชนาณัฐ วุฑฒยากร หรือ ดอลล่าร์ จะบอกว่าสารวัตรแบงค์ถูกยิง
ส่วนกรณีการแถลงข่าวเมื่อวาน(15 กันยายน) ไม่ปรากฏภาพ ผกก.พญาไท อยู่ในวงจรปิด พ.ต.อ.กฤษฎาพร ระบุว่า มันมีย้อนหลังอยู่นิดหน่อย ไม่เป็นไร พร้อมทั้งตอบระบุว่า ผกก.เบิ้ม ไม่ได้อุ้มสารวัตรแบงค์ ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.กฤษฎาพร ใช่คนที่อยู่ในคลิปขู่โป้งนักข่าวหรือไม่ เจ้าตัวตอบสั้น ๆ ว่า "ไม่มี ไม่กล้า กลัวแล้ว ๆ" ก่อนเดินกลับเข้าไปภายในห้องสอบสวน