9 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน กรุงเทพ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ซึ่งเป็นคืนที่ 3 พบว่ามีบรรดาเพื่อนสนิท และผู้บังคับบัญชาเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงกรณีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่เห็นเอกสารเป็นทางการ จึงไม่ขอยืนยันในกรณีนี้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นตำรวจชั้นประทวน จำนวน 4 นาย ในข้อหาเกี่ยวกับการช่วยเหลือและพาผู้ต้องหาหนี หากเป็นตำรวจทางหลวง ก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยจะต้องตรวจสอบว่าทาง บก.ทล. สามารถเซ็นคำสั่งได้ทันทีหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีถูกย้ายให้เข้าไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ทั้งหมด
ส่วนของเรื่องอาวุธปืน ขณะนี้ทราบว่าผู้ซื้อคือตำรวจ แต่ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจทางหลวงหรือไม่ หากมีความเกี่ยวข้องก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยืนยันว่าคดีนี้จะไม่มีการปกป้องคนผิด และ จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น เบื้องต้นคาดว่าปืนดังกล่าวเป็นของตำรวจทางหลวง
จากกระแสการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตของอดีตนายตำรวจ ที่ไปออกรายการชื่อดังระบุว่า กรณีที่เกิดเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร นั้น ไม่ใช่แค่เรื่องการขอย้ายตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของส่วยทางหลวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การวิจารณ์เป็นเพียงความคิดของบุคคลนั้น ๆ แต่จะต้องดูที่ข้อเท็จจริง อย่าหลงทาง ใครจะพูดอะไร ก็สามารถพูดได้ทั้งสิ้น แต่ตนและตำรวจทั้งหมด เดินตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตเรื่องวันเกิดเหตุ มีการพูดคุยเรื่องส่วยสติกเกอร์ หรือ ผลประโยชน์อื่นนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าไม่มี ไม่มีการพูดคุยเรื่องส่วยสติกเกอร์ ไม่มีเรื่องการเคลียร์ตำแหน่งหน้าที่ หรือใด ๆ ก็ตาม แต่เป็นเรื่องวุฒิภาวะของกำนันนก ที่หลงตัวเอง หลงในอำนาจ ทำอะไรตามใจไม่มีความยั้งคิด จึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
ในส่วนของเรื่องการทำลายหลักฐาน หรือ กล้องวงจรปิด ตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นการสืบสวนของทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แต่ได้มีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จะให้ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกคน ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น และจะไม่มีการช่วยเหลือ
เพราะหน่วยงานได้สูญเสียข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพและเป็นคนดี จึงไม่จำเป็นต้องไปดูตำรวจที่ออกนอกแถว หรือไปช่วยเหลือคนอื่น ตอนนี้ได้ถูกเงิน หรือ อำนาจ กลืนไปคนเหล่านี้กรีดเลือดออกมาก็ไม่ใช่สีเลือดหมู เพราะฉะนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว