ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี หรือ "แอม ไซยาไนด์" ผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ เท้าแชร์ก้อย จนเสียชีวิตริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นั้น
13 พฤษภาคม 2566 คณะพนักงานสอบ ได้นำตัว น.ส.แก้ว อายุ 60 ปี พยานปากสำคัญ ซึ่งรับกล่องพัสดุภายในบรรจุทรัพย์สินของก้อย เข้าไปพบกับแอมภายในทัณฑสถานหญิงกลาง โดย น.ส.แก้ว มีความประสงค์จะเข้าไปพบแอม คาดว่าต้องการไปพูดคุยให้รับสารภาพ และอาจจะสอบถามถึงเรื่องทรัพย์สินดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมสอบสวน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ยังไม่ได้สอบปากคำ โดยได้เพียงมาพูดคุยก่อนอาจจะสอบปากคำในวันหลัง ซึ่งมีการให้การที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาก ซึ่งมีการรับในข้อเท็จจริงในบางส่วนถึงรายละเอียดต่าง ๆ แต่เรื่องการฆาตกรรมยังไม่รับสารภาพ
สาเหตุที่แอมส่งกระเป๋าไปให้ น.ส.แก้ว เพราะเจ้าตัวจนแต้มไปไม่รอด ส่วนเงิน 50,000 บาท ของก้อยที่หายไป แอมบอกว่า ก้อยไม่มีเงิน แต่อย่างอื่นรับสารภาพหมด เรื่องโทรศัพท์และกระเป๋า ส่วนโทรศัพท์ไอโฟนอีกเครื่องที่หายไป แอมบอกว่าเอาไปทิ้ง เพราะมองว่าไอโฟนติดตามได้ และกรณีทองคำของนายแด้ อดีตสามี แอมยอมรับว่า นำไปขายที่ร้านทอง แต่ปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่ นายแด้ เสียชีวิต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตอนแรกที่แอมโกหกเรื่องกระเป๋าก้อย เป็นวิธีการเอาตัวรอดของผู้ต้องหา ส่วนหนึ่งอาจมีผู้แนะนำ เพราะวันนี้เขาตั้งทนายสู้คดี สำหรับ น.ส.แก้ว จะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เพราะอ้างว่า เคยถูกนางแอมวางไซยาไนด์ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และ น.ส.แก้ว ยังไม่มีความผิดร่วม เนื่องจากมีเจตนานำของกลางมาให้ตำรวจตรวจสอบ เป็นคนที่นางแอมไว้วางใจ เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2563 และเป็นคนแนะนำให้รู้จักกับ ทนายพัช มาช่วยเหลือทางคดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การสอบปากคำแอมวันนี้ เจ้าตัวมีอาการร้องไห้สลับหัวเราะ ไม่มีความเครียดมากนัก ส่วนก่อนหน้านี้ที่ทนายพัช ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า แอมไม่ต้องการให้บุคคลใดเข้ามาพบ รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วย ระบุว่า แอมไม่มีท่าทีที่จะไม่ให้เข้าพบ และไม่ได้ถามถึงในประเด็นดังกล่าว และการที่เข้ามาพบวันนี้ เป็นความต้องการของ น.ส.แก้ว พยานในคดี ไม่ได้เป็นการตามใจผู้ต้องหา
แต่หลังจากที่ น.ส.แก้ว มาพร้อมกับตำรวจวันนี้ นางแอม มีท่าทีระแวง ไม่ไว้ใจ น.ส.แก้ว เนื่องจากไปออกรายการโทรทัศน์ และอยู่กับตำรวจ แต่ไว้ใจทนายพัช มากกว่า ส่วนหลังจากนี้จะเรียกทนายพัช มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่หนักใจ แม้แอมจะโกหก และไม่ยอมรับสารภาพเรื่องการเป็นผู้ลงมือฆ่า หรือเป็นคนวางไซยาไนด์ แต่พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงหมดแล้วเหลือเพียงข้อมูลเส้นทางการเงินที่รอตอบกลับมาจากธนาคาร รวมทั้งต้นตอผู้สั่งซื้อไซยาไนด์ให้กับนางแอม เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการในบางคดีได้ภายในสัปดาห์หน้า
หลังจากสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเริ่มสรุปสำนวนการสอบสวน เพื่อทยอยส่งสำนวนการสอบสวนมีความเห็นทางคดีไปยังพนักงานอัยการ แต่ยังเหลือเนื้อหาสาระบางส่วนของสำนวนการสืบสวน และสำนวนการสอบสวน โดยช่วงบ่ายวันนี้ ได้นัดทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวนเข้ามาบูรณาการร่วมกันทั้งหมด เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนใน 2 สัปดาห์
นอกจากนั้นจะเรียกผู้ใกล้ชิดมาแจ้งข้อกล่าวหา หรือ ขอศาลออกหมายจับอีก 1-2 คน ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง