10 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้อำนวยการกองคดีฯ/ศูนย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 และตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนในประเด็นที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้ความสนใจ
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวถึงคดีพิเศษที่ 288/2565 ว่า ได้รับข้อมูลแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มดำเนินการเกี่ยวกับการใช้บัญชีม้า กลุ่มบุคคลหลายคนดำเนินการในลักษณะฟอกเงินให้กับกลุ่มอาชญากรรมอื่นๆ เช่น พนันออนไลน์ ค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น และกลุ่มนี้ก็ใช้วิธีการรับซื้อบัญชีม้า และบางส่วนจ้างคนไปเปิดบัญชี จนสร้างความเสียหายจำนวนมาก ทำให้มีบางส่วนที่รับเงินเข้าบัญชีแล้วกดเงินไปใช้ ก็ถูกบังคับข่มขู่เรียกเงินคืน มีการทำร้ายร่างกาย
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนของดีเอสไอพบว่ากลุ่มผู้ใช้บริการ หนึ่งในนั้นมีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ "นอท กองสลากพลัส" จึงเป็นที่มาการขยายผลและเเจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและจัดให้มีการเล่นพนันแก่นายพันธ์ธวัช นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเครือข่ายอื่น ๆ ที่ใช้บริการขบวนการฟอกเงินเหล่านี้ โดยเรามีการสืบพบว่ามีการใช้ในกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ เกี่ยวข้องถึง 41 เว็บไซต์ และยังอยู่ระหว่างการขยายผลสืบสวนเพิ่มเติม และในบรรดา 41 เว็บไซต์ดังกล่าว เราได้ส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ทำการปิดเว็บไซต์ไว้ก่อน
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวถึงพฤติการณ์ของนายแทนไท ณรงค์กูล ที่เป็นเหตุให้ดีเอสไอแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันในเลขคดีพิเศษ 6/2566 ว่า ในช่วงที่แจ้งข้อหานายพันธ์ธวัช ปรากฏว่าสังคม บางกระแสมีการโจมตีดีเอสไอ ว่า เรามีการอายัดเงินในช่วงเวลาเที่ยงวันและในช่วงบ่ายมีการถอนเงินออกไป ดีเอสไอถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรู้เห็นถึงการอายัดเงินจำนวนหลักร้อยล้านบาท ซึ่งความจริงแล้วพนักงานสอบสวนมีการวางแผนดำเนินการไว้ตั้งแต่ต้น ว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งในจำนวนเงินที่อายัดไว้ แล้วพบว่ามีการถอนเงินออกไปนั้น พบเป็นนายแทนไทและบริษัทฯ ของเขา เป็นคนถอนเงินจำนวนนี้
จึงเป็นที่มาของการออกหมายเรียกเชิญนายแทนไทและคนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล แม้ว่าจากพยานหลักฐานเขาจะโต้แย้งว่าเป็นการให้กู้ยืมเงิน แต่พนักงานสอบสวนเราพบว่ามันเป็นลักษณะร่วมกันลงทุน ต่างจากการกู้ยืมที่จะมีการรับดอกเบี้ยอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ หลักฐานที่ทั้งนายแทนไทและบริษัทฯ นำมาชี้แจงแสดง มันไม่ใช่การกู้เงินแน่นอน ซึ่งพบว่ามีจำนวนเงินถึงหลักหลายร้อยบาท จึงเป็นเหตุให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ข้อหาแก่นายแทนไทและบริษัทฯ
สำหรับหมายเรียกผู้ต้องหาชุดเดียวกับนายแทนไท ที่มีการออกหมายไป 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด 2.บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ส่วนอีก 2 รายที่เหลือเป็นผู้ร่วมให้กู้ยืมเงินแก่นายพันธ์ธวัช (นายทุน) โดยไม่ใช่บุคคลมีชื่อเสียง หรือเป็นที่รู้จักในสังคม แต่เป็นเพียงนักธุรกิจ จึงขออนุญาตสงวนชื่อนามสกุลไว้ก่อน โดยทั้งสองรายนี้ได้ประสานมาว่าจะเข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 20 เมษายน นี้
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 6/2566 ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับบรรดานายทุนของนายพันธ์ธวัช พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า เราไม่ได้ดำเนินการแค่ในกลุ่มของนายพันธ์ธวัช แต่เราดำเนินการกับกลุ่มคนที่ใช้บริการขบวนการฟอกเงินด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยเรียกให้เข้ามารับทราบข้อหา ตั้งใจจะดำเนินการเร่งรัดให้เสร็จสิ้นอย่างเร็วที่สุด
ดังนั้น บุคคลใดก็ตามที่พนักงานสอบสวนพบว่า มีการลงทุนร่วมกับนายพันธ์ธวัช หรือบริษัทของนายพันธ์ธวัช ก็จะมีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินและข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน เช่นเดียวกัน ส่วนการที่พบรายชื่อบุคคลเหล่านี้นั้น พนักงานสอบสวนตรวจสอบจากรายการเดินบัญชี (Statement) ของนายพันธ์ธวัช และดูการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ ด้วย
ด้าน นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีพิเศษที่ 288/2565 และคดีพิเศษที่ 6/2566 กล่าวว่า สำหรับคดีพิเศษที่ 288/2565 เป้าหมายหลักของเราคือนายสุทิน ใจสนุก ซึ่งเป็นหัวหน้ารายใหญ่ของขบวนการฟอกเงิน เป็นหัวหน้าแก๊งโบรกเกอร์บัญชีม้า จัดหาบัญชีม้า เพื่อส่งให้กลุ่มพนันออนไลน์นำไปใช้เข้าระบบ และมีรับบริการกดเงินสดให้ด้วย และถ้ากลุ่มพนันออนไลน์ไหลเงินผ่านบัญชีม้าที่ซื้อไป แล้วต้องการเบิกถอนเงินสดออกจากระบบ ก็สามารถใช้บริการม้าเดินของนายสุทิน ได้
คดีพิเศษ 288/2565 ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับ และในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ หากผู้ต้องหาที่เหลืออีก 14 ราย เข้ารับทราบข้อหาครบในวันที่ 20 เมษายน นี้ จากนั้นจะนำส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา ซึ่งมีนายพันธ์ธวัช รวมอยู่ด้วยกับพนักงานอัยการ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสรุปสำนวนแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน นี้ ส่วนขั้นตอนของการควบคุมตัวหรือการให้ประกันตัวผู้ต้องหา จะไปในส่วนของพนักงานอัยการที่จะต้องพิจารณา ซึ่งหลักทั่วไปพนักงานอัยการจะทำบันทึกรับทราบการนัดฟังคำสั่งคดีแจ้งแก่ผู้ต้องหา จากนั้นก็ปล่อยตัวกลับ
ส่วนคดีพิเศษที่ 6/2566 นายพงษธร กล่าวว่า เราดำเนินการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มของนายพันธ์ธวัชและตัวเขา ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันและข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังจากนั้นบุคคลใดก็ตามที่ร่วมกระทำความกับนายพันธ์ธวัช หรือร่วมลงทุนกับเขาก็จะถูกแจ้งข้อหาด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่พบบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่สังคมรู้จัก
ทั้งนี้ นอกจาก 4 หมายเรียกที่ได้ออกไป เรายังจะมีทยอยออกหมายเรียกอีก ซึ่งอธิบดีฯ ได้กำชับให้ส่งสำนวนคดีนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคม และสำหรับการพิจารณาแจ้งข้อหา พนักงานสอบสวนจะพิจารณาจากมิติสัมพันธ์และพยานหลักฐานอื่น ๆ ร่วมด้วยไม่ใช่เพียงถ้อยคำในสัญญาเท่านั้น เพราะทุกคนล้วนระบุว่า ตนเองให้กู้ยืมเงินแก่นายพันธ์ธวัช แต่เราดูพฤติการณ์ที่เขามีร่วมกัน ทั้งการปันผลและรูปแบบการให้เงิน ซึ่งต้องดูประกอบให้ครบทุกมิติ เพื่อให้สำนวนมีความครบถ้วนและรัดกุมก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอน