ผบช.น. สั่งเร่งขยายผล แก๊งจีนอุ้มสาว รีดทรัพย์ 3.3 ล้าน

19 มีนาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี ตำรวจนครบาล และตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมผู้ต้องหาชาวจีน เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย หลังก่อเหตุจี้อุ้มรีดทรัพย์ นักศึกษาปริญญาโทสาวชาวจีน เป็นเงินสกุลหยวน และ เงินสกุลคริปโต กว่า 3.3 ล้านบาท หน้าร้านอาหารย่านเอกมัย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มี.ค. โดยสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.คลองลึก สระแก้ว ก่อนคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• จับยกแก๊ง อุ้มสาวจีนรีดทรัพย์ 3.3 ล้าน พบเพื่อนสาวเป็นนางนกต่อร่วมวางแผน
• อุกอาจ! คนร้ายดักอุ้มสาวจีน จากร้านอาหาร ย่านเอกมัย รีดค่าไถ่ กว่า 3 ล้าน

ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 , พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 , พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.ทองหล่อ เพื่อหารือขยายผล

หลังการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย ที่ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวนั้น คือ 1.Mr.RAN XIAOYONG (หราน เสียว หย่ง) 2.Ms.NIE LIJIAO (เนี่ย ลี่ เจี่ยว) และ 3. Mr.ZENG BO (เนี่ย ฉี เจิ่น) 
 

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา มีนักศึกษาสาวชาวจีน ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00น. ได้ไปรับประทานอาหารกับเพื่อนสาวที่ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย 

โดยหลังจากผู้เสียหาย ขึ้นไปรับประทานอาหาร กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ นาทีรถตู้อัลพาร์ดของผู้ต้องหา เข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ของร้านอาหารในช่วงเวลา 20.26 น.


ต่อมาหลังรับประทานอาหารเสร็จ เวลา 21.50 น. ผู้เสียหายได้เดินลงมาจากร้านอาหาร โดยเพื่อนสาวของผู้เสียหาย พยายามจูงมือผู้เสียหายให้เดินไปใกล้ ๆ รถตู้ จากนั้นชายคนหนึ่ง เปิดประตูรถตู้พร้อมจับมือ และบีบคอผู้เสียหาย ก่อนกระชากขึ้นรถ 

ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อขึ้นไปบนรถตู้ ได้ถูกพันธนาการ ปิดตา มัดมือ เมื่อขึ้นรถไปสักระยะ ได้ทำการเปิดตาผู้เสียหาย  และบังคับให้ผู้เสียหาย โอนเงินเป็นเงินสกุลดิจตอล จำนวน 200,000 USDT แต่ผู้เสียหายมีเพียง 8,014USDT หรือประมาณ 270,000บาท จึงโอนให้คนร้าย 

นอกจากนี้ ยังได้มีการติดต่อน้องชายของผู้เสียหาย และมีการขอให้โอน 250,000 หยวน หรือราว 1,200,000 บาท ซึ่งในช่วงนั้น ผู้ต้องหาขับรถวนไปเรื่อย ๆ ไม่ได้มีการจอดพักที่จุดไหน จนกระทั้งช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค. กลุ่มคนร้ายได้พยายามให้ผู้เสียหายติดต่อญาติ และเพื่อนชายให้โอนเงินเพิ่ม จำนวน 50,000 USDT หรือ 1,700,000 บาท ซึ่งเพื่อนชายคนสนิท ได้ทำการโอนคริปโต ให้ตามจำนวนดังกล่าว ก่อนจะปล่อยตัวผู้เสียหายลง ที่ย่านมีนบุรี 
 

หลังจากลง รถผู้เสียได้ใช้มือถือภ่าย ภาพจุดที่ถูกปล่อยตัว ก่อนจะเรียกแท็กซี่กลับที่พัก พร้อมกับเพื่อนสาว โดยเพื่อนสาวรายนี้ได้ขอลงที่ย่านสยาม ก่อนที่ช่วงเย็นผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินการกับแก๊งอุ้มรีดกลุ่มนี้

จากการสืบสวนตรวจสอบพบว่า รถตู้ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถที่เช่ามาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ตำรวจจึงนำตัวคนที่ติดต่อเช่ามาสอบปากคำ ซึ่งเป็นผู้เช่ารายนี้เป็นชาวจีนเช่นเดียวกัน โดยเจ้าตัวอ้างว่า กลุ่มคนร้ายขอให้ช่วยเช่ารถตู้คันดังกล่าวให้ โดยตนจะได้ส่วนต่างค่าเช่า 3,000 บาทต่อวัน จากคนร้าย ซึ่งเป็นการเช่าจากเต็นท์ 5,000บาท เอามาให้คนร้ายเช่าต่อ 8,000 ต่อวัน 

โดยมีการตกลงเช่า 3 วัน หลังเกิดเหตุ ตามกำหนดการ คนร้ายจะต้องคืนรถให้ในวันที่ 17 มี.ค. แต่ตนไปเที่ยวที่พัทยา คนร้ายจึงได้นำรถไปจอดไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และจ้างให้คนขับแท็กซี่ ขับรถไปคืนตนที่พัทยา

ทางทีมสืบสวนได้ประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้สกัดกั้นการเข้าออกของคนร้าย จนพบว่า เมื่อคืนกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน ซึ่งคนแรกทำหน้าที่ขับรถ คนที่ 2 ทำหน้าที่ใช้กรรไกรจี้ผู้เสียหายขึ้นรถ และคนที่ 3 คือ หญิงสาวที่มาทำทีตีสนิท เป็นเพื่อนผู้เสียหาย ทำหน้าที่นกต่อ กำลังหลบหนีที่ชายแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว เตรียมเดินทางออกไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้

สอบสวน ผู้เสียหาย พบว่า รู้จักกับหญิงที่เป็นนางนกต่อเกือบ 1 ปี มีการพูดคุยกันเฉพาะเวลามาเที่ยวประเทศไทย ซึ่งผู้เสียหายเคยมาเที่ยวที่ประเทศไทย จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาตีสนิทผู้เสียหาย น่าจะมีข้อมูลจากที่ตน ได้รับเงินจากการเวนคืนที่ดิน ที่จีนจำนวนมาก 


ส่วนการเดินทางเข้า-ออกของกลุ่มคนร้าย เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 3 ครั้ง เดินทางเข้ามาครั้งแรกช่วงวันที่ 24 พ.ค. 65 ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยังไม่ให้การใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ทางตำรวจมีหลักฐาน ในการแจ้งข้อหาเบื้องต้นฐาน “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ,

ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกายจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นโดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ”

หลังจากนี้ทาง ผบช.น. ได้กำชับให้ผ่านสืบสวนเร่งขยายผลว่า มีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ อีกทั้งยังให้ประสานตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับแก๊งจีนสีเทาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่มีการควงปืน เรียกค่าไถ่จากกลุ่มคนรวย หรือไม่อย่างไร