18 มีนาคม 2566 มีรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา นางสาวเอ อายุ 23 ปี สัญชาติจีน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ หลังถูกกลุ่มคนร้ายเป็นชาย บีบคออุ้มขึ้นรถตู้อัลพาร์ด สีดำ ขณะเดินออกจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม เวลาประมาณ 20.00 น.
ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากถูกดึงตัวขึ้นไปบนรถตู้ ถูกปิดตา มัดมือ ปิดปาก ส่วนรถวิ่งไปบนถนน โดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง ระหว่างที่อยู่บนรถ กลุ่มคนร้ายได้มีการข่มขู่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย พร้อมกับบังคับให้โอนคริปโตสกุล USDT จำนวน 200,000 USDTแต่ทางผู้เสียหายได้ตกลงโอนคริปโตให้ 8,000 กว่า USDT และโอนเงินสดให้ประมาณ 250,000 หยวน ซึ่งเงินสดดังกล่าว เป็นเงินของญาติชาวจีน
ต่อมาเช้าวันที่ 17 มีนาคม คนร้ายได้ให้ผู้เสียหายติดต่อกับแฟนหนุ่ม เพื่อให้โอนเงินให้กลุ่มคนร้ายโดยทางแฟนหนุ่มได้ได้โอนเงินคริปโตอีก 50,000 USDT เข้ามายังแอปพลิเคชัน imtoken ซึ่งเป็นบัญชีของผู้เสียหาย เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว กลุ่มคนร้ายได้นำโทรศัพท์มือถือไปดำเนินการโอนเงินต่อโดยไม่ทราบว่าบัญชีปลายทางเป็นบัญชีใด
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ลบแอปฯ imtoken ดังกล่าวของผู้เสียหายไป พร้อมกับลบรูป และข้อความแชทในแอปฯ Wechat ทั้งหมด ที่มีการสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับญาติ ก่อนที่จะพาผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งบริเวณลานหน้าบ้าน แห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยบริเวณดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่มีกล้องวงจรปิด ทันทีที่ผู้เสียหายเดินทางกลับที่พักคอนโดฯ ย่านอโศก ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้ทำการประชุมฝ่ายสืบสวน พร้อมกับเชิญตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำเบื้องต้น เพื่อวางแผนแกะรอย ไล่กล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีคนร้าย พร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เป็นชาวจีน 2 คนทั้งคนขับรถตู้ในวันเกิดเหตุ และคนที่ลงมืออุ้มสาวจีนขึ้นรถ อยู่ระหว่างการประสานงานกับทาง ตม. เพื่อไม่ให้หนีออกประเทศไปก่อน
ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายชาวจีนแล้ว ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนเร่งดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวโดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเชิญผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความชัดเจนและเร่งดำเนินการต่อไป
สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงประเด็นจำนวนเงินที่ทางผู้เสียหายโอนให้คนร้ายมีมูลค่าเท่าไหร่นั้น ยังคงต้องรอข้อมูล ประกอบกับผู้เสียหายเป็นชาวจีนจึงต้องประสานผ่านทางล่ามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจจุดที่ตั้งร้านเกิดเหตุ พบว่าร้านดังกล่าว อยู่ภายในโครงการขนาดใหญ่ย่านเอกมัย จากการสำรวจไม่พบป้ายชื่อร้านติดอยู่ภายในโครงการ แต่หากค้นหาภายใน google map จะพบว่าร้านดังกล่าวตั้งอยู่ที่ภายในโครงการนี้
สอบถามพนักงานของร้านอาหารดังกล่าว เปิดเผยว่า ร้านตั้งอยู่ภายในชั้น 2 ของอาคารหนึ่งภายในโครงการ ลูกค้าหลายรายที่ต้องการจะมาร้านนี้มักจะหาร้านไม่เจอ มักจะต้องโทรศัพท์ไปที่ร้านเพื่อให้พนักงานของร้านลงมารับ โดยร้านจะขายอาหารแบบโอมากาเสะ และจะรับเฉพาะลูกค้า VIP หรือจะต้องโทรศัพท์จองเท่านั้น