เปิดคลิปสารวัตรคลั่ง กราดยิง 48 นัด ตร.ปิดล้อม 7 ชม. ต้องยิงแก๊สน้ำตากดดัน

14 มีนาคม 2566 ความคืบหน้า ตำรวจยศ พ.ต.ท.​ ตำแหน่ง ​สว.ศูนย์พัฒนาด้านการข่าวสันติบาล เพิ่งย้ายมาจากวิทยาลัยการศึกษา บช.ศ. มีอาการป่วยจิตเวชและเครียดปัญหาชีวิต คลุ้มคลั่งกราดยิงบริเวณบ้านพักย่านสายไหม โดยก่อนเกิดเหตุชุดปฏิบัติการสันติบาล ได้ประสาน รพ.ตร. เพื่อมารับตัวไปรักษา

โดยขณะนี้ ตำรวจ สน.สายไหม พร้อมด้วย ชุดอรินทราช ยังคงปิดล้อมเจรจา ให้วางอาวุธ และเข้าสู่กระบวนการรักษา ขณะที่ ผบช.น. ได้ลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่สถานการณ์ต้องไม่ยืดเยื้อและจบลงด้วยดี  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ผบช.น.ลุยคุมสถานการณ์ สารวัตรคลั่ง ลั่นจบให้ดีที่สุด-ไม่ยืดเยื้อ
• เปิดแชตก่อนคลั่ง เจ้าของบ้านเช่าคุยสารวัตรสันติบาล เป็นห่วงอาการป่วย
• เพื่อนบ้านผวา! หลบกระสุนสารวัตรคลั่ง เผย ครั้งนี้รุนแรงสุด
• เปิดพฤติกรรม สารวัตรการข่าวสันติบาล คลั่งยิงปืนในบ้านพักย่านสายไหม

ล่าสุดหลังสถานการณ์ผ่านไปว่า 7 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังคงทำการปิดล้อม และยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้ สารวัตรผู้ก่อเหตุ ได้รัวยิงกระสุนไปแล้ว 48 นัด

ทั้งนี้เมื่อไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

เวลา 11.00 น. สารวัตร กิตติกานต์ เเสงบุญ อายุ 51 ปี ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด ในพื้นที่บ้านมั่นคง ซ.จิระมะกร สายไหม 46 เขตสายไหม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าปิดล้อมพื้นที่ พร้อมกันชาวบ้าน และส่งทีมเจรจา ขณะที่ตำรวจคลั่ง ยิงปืนออกมาจากบ้าน ระหว่างหน่วยอรินทราชเข้าปิดล้อมพื้นที่ 
 

เวลา 13.49 น. ตำรวจยังคงปิดล้อมบ้านพักของ สารวัตร กิตติกานต์ หลังเสียงปืนดังขึ้นอีกรวมกว่า 10 นัด

 

เวลา 14.40 น. เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ใช้โทรโข่ง พยายามที่จะพูดคุยกับ นายตำรวจที่คุ้มคลั่ง “ว่า เราเป็นเพื่อนกัน เคยทำงานด้วยกัน ขาดเหลืออะไร ต้องการอะไร ก็ขอให้บอกมา พวกเรามารับเเล้ว วางปืนเเล้วออกมาเถอะ"


เวลา 15.00 น. สารวัตร กิตติกานต์  โยนสิ่งของลงมาจากบ้านชั้น 2 และสาดน้ำลงมาจากบนบ้าน พร้อมกับเสียงโวยวาย และเสียงปืนที่ดังออกมา มีการนับเสียงปืนทั้งหมดที่ยิงรวม 48 นัด 

มีรายงานว่า กระสุนปืนหนึ่งกล่องมี 50 นัด แต่ทางผู้บังคับบัญชาไม่แน่ใจว่า สารวัตร กิตติกานต์ มีกระสุนปืนอยู่กี่กล่อง แต่จนถึงเวลา 16.30 น. ก็ไม่ได้ยินเสียงปืนออกมาจากตำรวจนายนี้อีกเลย ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เข้าตัดกระแสไฟ เพื่อเป็นการกดดัน ให้ สารวัตร กิตติกานต์ ออกมาจากบ้าน 

เวลา 16.30 น. จากการตรวจสอบพบว่า สารวัตร กิตติกานต์ ยังนอนหลับไปภายในบ้านพักของตัวเอง หลังจากอ่อนเพลียตั้งเเต่ช่วงเช้า จากนั้น ตำรวจ พร้อมทีมกู้ภัย เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เป็นผู้สูงอายุ 2 ราย ออกจากบ้านจุดที่ใกล้เคียงกับบ้าน สารวัตร กิตติกานต์  
 

เวลา 18.00 น.  ผ่านไปกว่า 7 ชั่วโมง ที่ตำรวจชุดอรินทราช ตำรวจนครบาล ตำรวจสายไหม ยังคงใช้ความพยายามในการเจรจา เกลี่ยกล่อม เพื่อให้ สารวัตร กิตติกานต์ นั้นยอมวางอาวุธ เเละออกมาให้ตำรวจนำตัวไปดูเเล  

โดยการใช้โดนบินสำรวจความเคลื่อนไหว โดย พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น.ผู้การสืบ นครบาล ออกเมาใช้โทรโข่งเจรจา ด้วยตัวเอง "บอกว่าจำได้ไหม พี่จ๋อเอง ที่เคยทำงานร่วมกันที่ ปส. เเต่ปรากฎว่า ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดใด รวมถึงพาตัวลูกชาย สารวัตร กิตติกานต์ มาร่วมเจรจาแต่ก็ไร้ผล


จากนั้น พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เจรจากับ สารวัตร กิตติกานต์ พร้อมประเมินว่าเวลานี้ พฤติกรรมของ สารวัตร กิตติกานต์  ไม่ใช่ภัยคุกคาม จึงได้สั่งให้ลูกน้อง ไม่ให้ใช้กำลังระงับเหตุ เเต่ป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย ขอเวลาให้ตำรวจได้ใช้เวลาในการทำงาน เเละรอให้พฤติการณ์ของ สารวัตร กิตติกานต์  ดาวน์ลง


เวลา 18.46 น. ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ระดมยิงแก๊สน้ำเพื่อระงับเหตุ สารวัตรคลั่ง ท่ามกลางเสียงดังปืนสนั่นต่อเนื่องกว่า 10 นัด พร้อมการตะโกนของตำรวจ แจ้งผู้สื่อข่าวและประชาชนว่า "ผู้ก่อเหตุได้ยิงตอบโต้" 


ล่าสุด เวลา 20.35 น. ที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ร่วม 10 นาย พร้อมอุปกรณ์และอาวุธพิเศษ ได้มาเสริมกำลัง เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่แต่ละนายมีกล้องไนท์วิชั่นติดที่หมวกเพื่อใช้ปฎิบัติภารกิจในที่มืด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปิดล้อมด้านหน้าบ้านพักของสารวัตรรายดังกล่าว โดยยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ

ตึงเครียด อีกรอบ "ต่อศักด์ " เจรจา ตร. คลั่ง

เวลา 21.10 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้ความพยายามเจรจากลับทาง "สารวัตรกิตติกานต์" เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ลงมาตอนนี้ โดยใช้ถ้อยคำที่ละมุนละม่อมว่า  "กานต์ฟังนะ ทำอะไรให้คิดถึงลูกให้มาก ๆ ลงมาคุยกันดีดี เเต่ทาง สารวัติกานต์ บอกว่าไม่อยากคุยด้วย เเละพยายามบอกว่า เรื่องที่สารวัติกานต์พูดน่าสนใจ อยากฟังอยากให้ลงมา เเละไม่มีอาวุธ" 

นอกจากนี้ยังโทรติดต่อให้มารดาสารวัตรกานต์ ให้มาเกลี่ยกล่อม โดยระบุว่า"แม่เป็นห่วงลูก เเต่ทางสารวัติกานต์บอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง หลังจากนั้นก็มีอาการคุ้มคลั่ง เเละพูดจาไม่รุ้เรื่องพูดไปถึงประธานาธิบดี พูดถึงทหาร"