รวบเฒ่าหัวหมอ ลวงนักธุรกิจลงทุนค้าเหล็กเส้นเก่า สูญเงินนับล้าน

9 มีนาคม 2566 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม นายชัยวัฒน์ หรือชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ผู้ต้องหายักยอกทรัพย์มูลค่านับล้าน ได้บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่ง ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากตั้งแต่ปี 63 ผู้เสียหาย ซึ่งทําธุรกิจเกี่ยวกับค้าเหล็กเส้นของเก่า ได้ส่งเหล็กเส้น ที่กว้านซื้อจากแหล่งก่อสร้างทั่วไป ให้กับ นายชัยวัฒน์ เพื่อขายต่อไปให้กับ ร้านค้าที่ นายชัยวัฒน์ เคยค้าขายกันอยู่ โดยก่อนที่จะทําธุรกิจกัน นายชัยวัฒน์ แจ้งว่าตนเองประกอบอาชีพ ค้าของเก่ารับซื้อของเก่าทั่วไป ส่งให้กับร้านรับซื้อที่รู้จักคุ้นเคยกัน โดยทางร้านดังกล่าวได้ให้ราคาดีกว่าร้านอื่น 

พร้อมกับยื่นข้อเสนอ หากมีพวกเหล็กเส้น อลูมิเนียมเก่ามาขายให้ ยิ่งจะทํารายได้ดีกว่าประเภทอื่น ซึ่งขายได้เท่าไหร่ ก็จะได้เงินเท่านั้น แต่จะขอแค่ส่วนต่างเล็กน้อยเท่านั้น ทําให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่า ถ้าลงทุนในส่วนนี้ โดยส่งเหล็กเส้นให้ นายชัยวัฒน์ แล้วจะได้เงินตามที่อ้าง จึงส่งเหล็กเส้นของเก่าที่มีอยู่ ในความรับผิดชอบให้ไปตั้งแต่ปี 63

 

โดยระยะแรก ๆ ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ แต่พอผ่านได้ไม่กี่เดือนปรากฏว่า เริ่มมีสิ่งผิดปกติ เพราะตัวนายชัยวัฒน์ แจ้งว่า ทางร้านที่รับซื้อเหล็กเส้นไว้ ยังไม่จ่ายเงินบ้าง อยู่ในช่วงโควิดบ้าง ของบางส่วนยังขายไม่ได้ ซึ่งผู้เสียหายก็ยังให้ความไว้วางใจ อยู่อีกระยะหนึ่ง เมื่อทวงถามบ่อยครั้ง ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง มาโดยตลอด 

ทำให้ผู้เสียหาย ได้ไปตรวจสอบไปยังร้านรับซื้อของเก่าที่ นายชัยวัฒน์ อ้างว่านําของไปขาย จนได้รับการยืนยันว่า ได้ชําระเงินค่าสินค้าไปให้ทั้งหมดแล้ว จึงกลับไปถามนายชัยวัฒน์ เจ้าตัวอ้างว่า บางร้านที่นําไปขายได้จ่ายเงินมาให้บ้าง บางร้านยังไม่จ่าย แต่ก็จะทยอยคืนเงินให้

ท้ายสุดก็ไม่ส่งเงินให้ และติดต่อไม่ได้ จึงทราบว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ในข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ทุนทรัพย์ที่เสียหาย เป็นเงินประมาณเกือบล้านบาท 

 

ภายหลังศาลแขวงบางบอน ได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหารายนี้ไว้ ต่อมาตํารวจ ได้พบตัว นายชัยวัฒน์ ที่ลานจอดรถดังกล่าว จึงเข้าแสดงตัวทำการจับกุม

โดย ผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้ถ้อยคําใด ๆ ในชั้นจับกุม เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” ก่อนนําตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป