svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ

ตำรวจ ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าตรวจการใช้น้ำ ‘ลาลิซ่า อาบอบนวด’ ยังไม่พบการลักลอบใช้น้ำบาดาล ขณะ ผบก.น.2 ระบุ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายการเป็นนอมินีอำพรางธุรกิจอื่นหรือไม่ ย้ำก่อนเปิดจะต้องยื่นขออนุญาตให้ถูกต้อง

ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ 6 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณี “เนชั่นทีวี” เปิดประเด็นการเปิดอาบอบนวด 2 แห่งใหม่ ระดับไฮเอนด์ ในกรุงเทพมหานคร ล่าสุดตำรวจนำกำลังไปจับ 1 ใน 2 อาบอบนวดดังกล่าว คือ "ลาลิซ่า"อาบอบนวด ถนนรัชดาฯ ย่านสุทธิสาร หลังพบว่ามีการลักลอบเปิดบริการ พร้อมจับกุมผู้ใช้บริการได้ 1 ราย ซึ่งผู้จัดการอาบอบนวดอ้างว่าเป็นการทดลองงานสาวนวด ก่อเปิดบริการจริง ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ

ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ (6 ก.พ.) ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร และเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันเข้าตรวจสอบสถานบริการ ‘ลาลิซ่า อาบอบนวด’ ว่ามีการลักลอบการใช้น้ำบาดาลหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้เข้าจับกุมสถานบริการดังกล่าว ลักลอบเปิดให้ใช้บริการก่อนได้รับอนุญาต

จุดแรกที่ได้ตรวจสอบจุดบ่อบาดาล บริเวณด้านหน้าทางเข้าของ ลาลิซ่าอาบอบนวด และจุดบริเวณด้านหลังอาคาร ซึ่งมีตัวแทนของสถานบริการ และพนักงานร่วมกันเปิดให้ทำการตรวจสอบ ซึ่งการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทางสถานบริการ ไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในอาคาร 

หลังจากทำการตรวจสอบประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ก็สาธิตการตรวจวัดค่าของน้ำให้ดู เพื่อเปรียบเทียบน้ำของลาลิซ่า อาบอบนวด และ น้ำประปาจากสถานประกอบการใกล้เคียง ปรากฎว่าค่าใกล้เคียงกัน
ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ

พล.ต.ต.อรรถพล ระบุว่า การเข้าตรวจค้นในวันนี้ เนื่องจากเมื่อปี 2561 สถานบริการแห่งนี้ เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเรื่องการลักลอบเจาะน้ำบาดาลใช้ ดังนั้นพอมีการแจ้งว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

จากการตรวจสอบที่จุดเดิม 2 จุดที่เคยลักลอบเจาะขุดน้ำบาดาลนั้น พบว่า ได้มีการโบกปูนทับปิดไปแล้วและจากการเดินสำรวจโดยรอบบริเวณก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการลักลอบขุดเจาะใช้น้ำบาดาล

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลยังได้ตรวจวัดค่านำไฟฟ้าของน้ำที่ใช้ในลาลิซ่าอาบอบนวด พบว่าตรงกับค่ามาตรฐานของน้ำประปาที่สถานีสูบน้ำบางเขนในวันนี้ รวมทั้งยังได้ตรวจเก็บตัวอย่างน้ำประปาจากสถานประกอบการในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ ซึ่งพบว่าค่าออกมาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่า ณ ขณะนี้ยังไม่พบการลักลอบการใช้น้ำบาดาลของลาลิซ่า
ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ
ส่วนกรณีการลักลอบเปิดให้บริการ โดยไม่มีใบอนุญาตนั้น พล.ต.ต.อรรถพล อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบไปแล้ว และเมื่อวันที่ 30 มกราคม ตำรวจก็ได้ไปประชุมหารือกับสำนักงานเขตดินแดงในการตรวจสอบเรื่องการขอใบอนุญาต และเข้ามาตรวจสอบที่ "ลาลิซ่า อาบอบนวด" พบว่าผู้ประกอบการมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องการตีความข้อกฎหมาย

ผู้ประกอบการเข้าใจว่า การซื้อใบอนุญาตประกอบกิจการมา ก็สามารถใช้ดำเนินการต่อได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายให้ทราบไปแล้วว่าไม่สามารถทำได้ เพราะชื่อผู้ประกอบกิจการไม่ใช่บริษัทเดิม จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติก่อน 

ทั้งนี้ หากจะเปิดดำเนินกิจการ จะต้องดำเนินการได้2แนวทาง คือ ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการใหม่ ในชื่อบริษัทใหม่ หรือหากจะใช้ใบอนุญาตเดิม ก็ต้องไปประชุมกรรมการบริษัทเดิม ให้เปลี่ยนชื่อกรรมการหุ้นส่วน ผู้จัดการ จากนั้นเมื่อยื่นขออนุญาตแล้วก็จะต้องผ่านขั้นตอนการขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ประกอบการด้วยว่าไม่เป็นบุคคลต้องห้าม เช่น เป็นบุคคลที่เคยประวัติถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวกับเพศมาหรือไม่
ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ

การขออนุญาต จะต้องขอใน 2 ส่วนคือ ขอกับทางสำนักงานเขตเรื่องอาคาร สถานที่ประกอบกิจการ และขอใบอนุญาตประกอบสถานบริการ กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล

สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการเดิม ของอาคารแห่งนี้นั้น พล.ต.ต.อรรถพล ระบุว่า เป็นชื่อผู้ประกอบกิจการ ในชื่อบริษัท หจก.เวนิส ในชื่อ โคปาคาบาน่า และ หจก.ชวาลา ใช้ชื่อว่า ชวาลา แต่ที่จะขอเปิดใหม่นั้น ชื่อผู้ประกอบกิจการ เป็นชื่อบริษัท หจก.ลาลิซ่า 2020 และ หจก.เดวิสโคปาคาบาน่า เปิดในชื่อ ลาลิซ่า ซึ่งทำให้ชื่อในใบอนุญาตเดิม กับชื่อ ในการจดทะเบียนบริษัทเพื่อประกอบกิจการใหม่ยังไม่ตรงกัน และบริษัทใหม่ไม่สามารถใช้ใบอนุญาตเดิมได้ จะต้องดำเนินการใน2แนวทางที่ได้ระบุไว้ให้ถูกต้องก่อน และผู้ประกอบการรายใหม่นี้ เป็นชาวไทย และยังไม่เคยยื่นขอตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้าม

ทั้งนี้ทางตำรวจ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกด้วยว่า การประกอบกิจการนี้จะเข้าข่ายการเป็นตัวแทนเพื่ออำพราง หรือเป็นนอมินีอะไรหรือไม่ เพราะอาจไปเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีประวัติถูกอายัดทรัพย์ หรืออาจเป็นการดำเนินการเพื่ออำพรางการทำธุรกิจอย่างอื่น โดยยืนยันว่า ตำรวจได้ข้อมูลแล้วพอสมควร แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งก็ได้ให้ผู้ประกอบการ นำเอกสารและข้อมูลเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย โดยยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำ ซึ่งหากเป็นการดำเนินการธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาก็จะต้องแสดงหลักฐานให้ได้

สิ่งที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบคือ ความเป็นมาของนิติบุคคล การจดทะเบียนเมื่อไร ใครเป็นผู้ถือหุ้น ใครเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ การเสียภาษี ประกันสังคม รายละเอียดที่ดำเนินการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ โดยชื่อทั้งหมดจะต้องตรงกัน และจะต้องแสดงหลักฐานหลักฐานด้วยว่าสถานที่ อาคารเหล่านี้ ได้มาอย่างไร โดยเบื้องต้น ทางกรรมการบริษัท ให้ข้อมูลว่า เป็นการเช่าอาคาร แต่ซื้อใบอนุญาตจากผู้ประกอบการเดิม ดังนั้นในเมื่อบอกว่าเช่าอาคารก็จะต้องชี้แจงรายละเอียดการเช่า สัญญาการเช่า ราคาต่างๆด้วย
ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ ส่วนหากมีการลักลอบเปิดอีกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ชี้แจงและกำชับว่าจะต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากพบว่ายังฝ่าฝืน ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพด้านในพบว่า พร้อมเปิดให้บริการประมาณ 80-90% ยังมีบางส่วนที่ปรับปรุงทำระบบไฟอยู่ ทั้งนี้ การที่มีการกระทำผิดเรื่องการลักลอบเปิดไปแล้วนั้น จะส่งผลต่อการพิจารณาใบอนุญาตประกอบการกิจการหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่พิจารณา

ในวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เรียกกรรมการบริษัทลาลิซ่า มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้นนั้น ทางพนักงานสอบสวนให้ทางกรรมการบริษัท นำเอกสารหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน โดยทาง กรรมการบริษัทลาลิซ่าได้ ขอนำเอกสารหลักฐานเข้ามาชี้แจงในวันศุกร์นี้อีกครั้ง รวมถึงหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต และต่อใบอนุญาตประกอบกิจการ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย
ตำรวจ-กรมน้ำบาดาล ตรวจ‘ลาลิซ่า’ ปมลักลอบใช้น้ำ จ่อขยายผลนอมินีธุรกิจ