ได้ตัวแล้ว ตร. 1 ในพี่น้อง 4 บ. "มาเก๊า 888" รอสอบเอี่ยวเว็บพนันดังจริงหรือไม่

3 กุมภาพันธ์ ความคืบหน้า กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ยุทธการ “มาเก๊า 888” เข้าตรวจค้นปิดล้อม 8 จุดทั่วกรุงเทพและปริมณฑล เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเว็บพนันออนไลน์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ตำรวจไซเบอร์ สรุปยุทธการ “มาเก๊า 888” เล็งออกเพิ่มอีก 4 หมายจับ ค้นอีก 4 ครั้ง
• ตร.ไซเบอร์ บุกค้น 8 จุดยุทธการ “มาเก๊า 888” หลังพบเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์
• รวบตัวมือการเงิน "มาเก๊า 888" ตร.มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดทั้งขบวนการ 

หลัง "ดิว อริสรา" นักแสดงชื่อดัง ออกมาโพสต์แฉ ถึงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 โดยตำรวจสามารถยึดของกลาง รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาได้บางส่วน ขณะที่ในส่วน พี่น้อง 4 บ. ที่ "ดิว อริสรา" ระบุว่าเป็นเจ้าของเว็บพนันดังกล่าว ยังคงหลบหนีอยู่ต่างประเทศ 

ล่าสุดมีรายงาน 1 ใน 4 พี่น้อง บ. เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีพฤติกรรมขับรถหรูไปทำงาน ทั้งยังพบว่าลาราชการไปต่างประเทศหลายวัน และเป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด ชายคนดังกล่าวถูกตำรวจจับกุมแล้ว  

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบกับ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า คงจะเรียกว่าการจับกุมไม่ได้ เพราะการที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับตัวไว้ เป็นการรับตัวของข้าราชการตำรวจ เรื่องการกระทำความ ผิดวินัย ซึ่งทางต้นสังกัดได้พิจารณาโทษมาแล้ว คือกักขัง 7 วัน


จากนั้นก็มีการนำตัวมาพร้อมกับหนังสือส่งตัว ฝากขังไว้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทาง สภ.รับไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เกี่ยวกับความผิดคดีอาญา เป็นความผิดที่เรียกว่า ผิดวินัยข้าราชการตำรวจ 

ซึ่งทาง สภ. ยืนยันว่าไม่มีการให้สิทธิพิเศษใดๆ กับข้าราชการรายนี้ มีการขังเหมือนกับการขังวินัยทั่วไป ตนเองพิจารณาถึงความปลอดภัย จึงแยกขังเดียวข้าราชการรายนี้ เพราะผู้ต้องหารายอื่น เป็นผู้ต้องหาที่ผิดในคดีอาญา แต่ข้าราชการรายนี้ผิดเรื่องวินัย เพื่อความปลอดภัยจึงแยกขัง แต่การเป็นอยู่ทุกอย่างก็เป็นตามระเบียบ ไม่มีการให้สิทธิพิเศษใด ๆ ยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้มีความกังวลใจ และก็ไม่ได้เรียกร้องใด ๆ 

 

ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวด้วยว่า ในส่วนเรื่องที่เขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน มาเก๊า 888 ตอนนี้เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไร ในเรื่องการสอบสวนละเอาไว้ ให้ทางต้นสังกัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ให้ข้อมูล แต่ในส่วนของโทษกักขัง 7 วัน เรียกว่า เป็นการผิดวินัย ก็จะมีโทษานุโทษที่ลดหลั่นกันไป สูงสุดคือการ ปลดออก ไล่ออก ต่ำสุดคือ กล่าวตักเตือน อันนี้ก็จะอยู่ส่วนกลาง ๆ 

ในส่วนเรื่องที่ว่าฝากขังไว้ก่อน รอการตรวจสอบคดีอาญา แล้วจะมาอายัดตัว ตนตอบไม่ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะการกักขัง เป็นเรื่องของวินัย พอสิ้นสุดการกักขัง ก็ส่งคืนต้นสังกัด กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งการโดนโทษวินัย จะมีผลกระทบกับการเลื่อนขั้น การขึ้นเงินเดือนต่าง ๆ เวลาที่จะพิจารณาขั้นเงินเดือน ก็จะเอาเรื่องที่ข้าราชการคนนั้นทำผิดในเรื่องต่าง ๆ มาพิจารณาด้วย