svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบก.น.1 สั่งให้ 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกราชการ เซ่นคดีรีดเงินดาราสาวไต้หวัน

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ลงนามในคำสั่งให้ 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย หลังถูกกล่าวหารีดเงินดาราสาวไต้หวัน

2 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ลงนามในคำสั่งเรื่อง “ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน” ด้วยมีข้าราชการตำรวจ ดังต่อไปนี้

1. ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รอง สว.ธุรการ สน.ห้วยขวาง
2. ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน รอง สวป.สน.ห้วยขวาง
3. ด.ต.กฤษฎา คำมะนา ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง
4. ส.ต.อ.นันทวัชร์ สุวรรณา ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง
5. ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง
6. ส.ต.อ.วัชรนนท์ ชาวยอง ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง

มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน เข้าข่ายความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีเหตุให้พักราชการได้ ตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547ข้อ 3(1) 

ผบก.น.1 สั่งให้ 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกราชการ เซ่นคดีรีดเงินดาราสาวไต้หวัน

รายชื่อ 6 รายข้างต้น เป็นตำรวจที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดอาญา รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่กลับ มีพฤติการณ์ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่จับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดีอันเป็นการทุจริตต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ และพฤติการณ์ดังกล่าวไม่น่าไว้วางใจ ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความ เสียหายได้ และพิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งข้าราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 131  และ 179 แห่ง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน  พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 6 นาย ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ผบก.น.1 สั่งให้ 6 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ออกราชการ เซ่นคดีรีดเงินดาราสาวไต้หวัน

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ตามมาตรา 141 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2665 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่ง หรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครอง ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์