9 มกราคม 2566 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจร เปิดเผยถึงกรณีมีผู้ขับรถยนต์ ยี่ห้อเบนท์ลีย์ เฉี่ยวชนรถ 2 คัน เมื่อกลางดึกวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ออกจากโรงพยาบาล 5 คน และยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบบาดแผลจากทางแพทย์ว่า มีอาการบาดเจ็บสาหัสหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการดำเนินคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และได้รับบาดเจ็บ” ส่วนข้อหาอื่นๆเพิ่มเติม ทางพนักงานสอบสวน รอผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และสารเสพติดจากทางโรงพยาบาลตำรวจ คาดว่าจะได้ภายในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ม.ค.2566)
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เกี่ยวกับการใช้ความเร็วรถ หากตรวจสอบพบกระทำความผิดก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อถามถึงกรณี ผู้ต้องหาปฏิเสธการใช้เครื่องมือวัดแอลกอฮอล์ หรือเป่าเมานั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ ตอบว่า กรณีดังกล่าวทางผู้ขับรถเบนท์ลีย์ยินยอมให้ตรวจเลือด ว่ามีแอลกอฮอล์หรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดกรณีเฉี่ยวชน ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก อาจจะทำให้แรงลมการเป่าไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องวัดไม่เสถียร ทางพนักงานสอบสวน จึงใช้วิธีการตรวจเลือด
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มีความเสียหายค่อนข้างมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย การตรวจผลเลือด จึงเป็นส่วนที่ยืนยันได้ชัดเจนกรณีผู้ต้องหา อาจจะใช้ต่อสู้กรณีดังกล่าว จึงมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ให้ผลการตรวจดังกล่าวยืนยันในชั้นศาลได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ถามต่อไปว่าผู้ขับขี่ได้เข้ารับการตรวจเลือดช่วง เวลาประมาณ 05.00 น. นั้น ระหว่างเกิดเหตุใช้เวลาชั่วโมงเศษ ก่อนตำรวจพาตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอาจต้องประสานงานกับโรงพยาบาลตำรวจ ว่ามีการตรวจเลือดล่าช้า หรือไม่ แต่ยืนยันว่าผลของแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดโดยหลักจะอยู่ได้ค่อนข้างนาน
ทั้งนี้ กฎหมายมีการพิจารณาการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หากไม่ยินยอมให้ตรวจให้สันนิษฐานว่า เป็นผู้ที่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่กรณีดังกล่าวเป็นการยินยอมให้ตรวจ อย่างไรก็ตาม กรณีการตัดแต้มดังกล่าวหากเมาและขับจะถูกตัดคะแนนจำนวน 4 คะแนน ถือว่าเป็นกรณีการตัดคะแนนมากที่สุด
ส่วนประเด็นที่มีการพยายามหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่จากที่เกิดเหตุนั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้ทาง กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่ามีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือไม่ ส่วนกรณีลักษณะดังกล่าวข้อกฎหมายที่เกิดเหตุรถเฉี่ยวชนมีข้อกฎหมายต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ หากเฉี่ยวชนและหลบหนีมีความผิด ส่วนกรณีรถเบนท์ลีย์ขับรถไปที่ใดมาก่อนหรือไม่ เป็นเรื่องทางคดีขอสงวนเอาไว้ก่อน แต่ต้องมีการสอบปากคำในประเด็นดังกล่าว
เมื่อถามว่าการตรวจสอบป้ายทะเบียนเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ ตอบอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลการกระทำเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีรถที่ใช้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด