ความคืบหน้ากรณี เบนท์ลีย์ชนยับบนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงสุขสวัสดิ์ - มุ่งหน้าดินแดง มีนายสุทัศน์ (สงวนนามสกุล) นักธุรกิจเป็นคนขับ เป็นเหตุให้รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลางเสียหลักชนขอบทางพลิกคว่ำติดช่องทางขวาสุด ก่อนจะถูกรถดับเพลิง อปพร. เขตบางรัก ที่ขับอยู่ช่องทางขวาชนซ้ำ จนรถยนต์มิตซูบิชิ หงายท้องชี้ฟ้า
จากอุบัติเหตุครั้งนี้ มีรถได้รับความเสียหาย 3 คัน และมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 คน เสียหายพังยับเยินทั้ง 3 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 4 คน ส่วนคนขับเบนท์ลีย์ ถูกตำรวจ บก.จร. เข้าควบคุมตัวไปตรวจร่างกายเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
8 มกราคม 2566 นายอานนท์ ศรีสุวรรณากุล อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยหน่วยฐานพระยาตาก กล่าวว่า ตนเองวิ่งบนทางด่วนเพื่อไปที่เกิดเหตุไฟไหม้ ย่านอุดมสุข จังหวะนั้นมีรถเก๋งแซงซ้ายขึ้นมาแล้วตบเข้าขวา ไปโดนรถยนต์มิตซูบิชิ รถจึงพลิกคว่ำไปกระแทกกับแท่งแบริเออร์ และโดนรถอาสาดับเพลิง
หลังเกิดเหตุตนสังเกตอาการของคนขับรถเก๋ง มีอาการมึนเมาและได้เดินลงจากทางด่วนไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะหนี แต่มีอาสาที่เห็นเหตุการณ์ได้ขับรถตามรถแท็กซี่ไป จากนั้นก็ไปที่โรงพัก เขาพยายามเดินบ่ายเบี่ยงเข้าห้องน้ำ แล้วเดินหลีกเลี่ยงออกหลังห้องน้ำเพื่อจะหนีอีกรอบ แต่พออยู่ต่อหน้าร้อยเวร เขาบอกว่าจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับรถดับเพลิงและรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร
ด้าน นายศราวุธ (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุนั่งกันมาทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน เริ่มขับออกจากบ้านพัก ย่านทุ่งครุ เป้าหมายกลับบ้านที่ จ.บึงกาฬ ขณะอยู่บนทางด่วน ขับในเลนกลาง ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม./ชม. ทันใดนั้นตนรู้สึกโดนกระแทกแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก มาเห็นเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถที่มีคนส่งมาให้ หลังเกิดเหตุ ตนพยายามตั้งสติแล้วช่วยกันพาทุกคนออกมาจากรถ
ขณะที่ นางสาวณิชชาวีร์ แฟนสาวนายศราวุธ กล่าวว่า ที่รอดมาได้เป็นเพราะทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย โดยแฟนเป็นคนขับรถ มีพ่อนั่งด้านข้างคนขับได้รับบาดเจ็บแขนหัก ถัดมาเป็นแม่ หลานชาย ตนนั่งอยู่แถวที่สอง ส่วนน้องสาวนั่งอยู่ด้านหลัง และมีสัมภาระอีกไม่เยอะ ส่วนของที่เหลือได้จัดไว้ด้านบน เพราะจะเดินทางไกลไปต่างจังหวัด เนื่องจากตนไม่ได้เจอพ่อแม่มาหลายปีแล้ว
ขณะนั้นครอบครัวกำลังนั่งอยู่ในรถแบบสบาย ๆ จู่ ๆ มีเสียงดังมาก เหมือนรถจะหลุดออกจากทางด่วน เพราะเห็นรถกำลังปีนเกยขึ้นขอบแบริเออร์แล้ว จากนั้นมีรถกู้ภัยมาชนจนรถหมุนอยู่หลายรอบ หากไม่มีรถกู้ภัยมาชนอีกต่อหนึ่ง รถตนคงตกทางด่วนไปแล้ว
จากนั้นพยายามเรียกทุกคนว่ายังอยู่ไหม โชคดีที่หลานหลับเขาจึงไม่ร้อง เมื่อตั้งสติได้ก็พากันปีนคลานออกมาด้านหลังตรงประตูเพราะกระจกแตกไปแล้ว ตนเห็นคลิปแล้วยังคิดเลยว่า ใช้แต้มบุญสูงมาก เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รอดมาได้อย่างไร โชคดีที่ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย
นางสาวณิชชาวีร์ กล่าวอีกว่า คู่กรณีไม่ยอมเป่าหรือตรวจแอลกอฮอล์ ตนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม กลุ่มพี่ ๆ กู้ภัยพยายามให้เขาเป่าแต่เขาปฏิเสธ พยายามจะไปดื่มน้ำ เคี้ยวหมากฝรั่ง เขาคงหาทางแก้ปัญหาของเขา ตนไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรถึงไม่ยอมเป่า
ทางตำรวจแจ้งว่า เขาขอตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นคาดว่าผลตรวจจะออกอย่างเร็วใน 7 วัน และไม่ทราบว่าระหว่างนี้จะมีกระบวนการอะไรหรือไม่ เท่าที่ทราบรถคู่กรณีไม่มีประกัน ส่วนประกันฝั่งเรายังไม่ตกลงกันว่า จะเคลมคันใหม่ให้หรือไม่ เพราะรถตนเพิ่งออกมาได้เพียง 21 วัน ตนไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบให้เราได้ 100 เปอร์เซ็นหรือไม่
"ขอวิงวอนคนที่มีรถหรู คุณมีอำนาจเงินหนูทราบ คุณมีสิทธิ์ซื้อรถที่มีคุณภาพดี อัตราเร่งสูง ความเร็ว ความแรง อะไรก็ตาม แต่อย่าให้ถนนของสาธารณะเป็นที่ประลอง หรือขับรถที่ความเร็วเกินจำเป็น ไม่ใช่เฉพาะคุณบนท้องถนน มันคือชีวิตของคนอื่น คุณก็มีครอบครัว เราก็มีครอบครัว วันนั้นเรานั่งมากัน 6 คน ถ้าเราไม่อยู่วันนี้ คนที่เหลืออยู่ก็เคว้ง พ่อแม่หนูรอเตรียมต้อนรับเราที่บึงกาฬ เราหดูหู่ใจ หวังว่าเขาจะรับผิดชอบเราอย่างเต็มที่"