28 ธันวาคม 65 ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนบรมราชชนนี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาเพื่อยื่นข้อมูล พร้อมขอให้การเพิ่มเติม ต่อคณะทำงานสอบสวน ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งเเต่งตั้ง ทำคดีของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "นายตู้ห่าว" กับพวก ที่เป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาอี, เฮโรอีน) อันเป็นการมีไว้จำหน่ายเพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐฯ, สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำ ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และมีส่วนร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวมี นายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทํางาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำข้อมูลเกี่ยวการสารเสพติด ที่มีเฉพาะในต่างประเทศ มาให้คณะทำงานตรวจสอบว่า สารเสพติดดังกล่าว มีในยาเสพติดของกลางหรือไม่ เเละขอให้มีการดำเนินคดีนายตู้ห่าวกับพวกฐาน ผลิตจำหน่ายนำเข้ายาเสพติด เข้ามาในราชอาณาจักร ในส่วนของพยานหลักฐาน ตนไม่สามารถไปตรวจสอบได้ เนื่องจากของกลางอยู่ในอำนาจของเจ้าหน้าที่
ตนได้ข้อมูลเรื่องยาเสพติด มาจากอดีตตำรวจระดับสูง ที่เคยทำคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเกษียนณอายุราชการไปเเล้วชื่อย่อ ส.ให้ข้อมูลว่า ยาเสพติดชนิดนี้ระบาดในต่างประเทศ ทำให้ราคาเฮโรอีนตกต่ำ เเละมีการนำเข้ามาในประเทศไทย จนราคายาบ้าตกต่ำเหมือนในต่างประเทศ เเละมีฤทธิ์ร้ายเเรง ขนาดใช้มือจับ มือยังดำ สารเสพติดนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่สารในประเทศไทย ประกอบกับบรรจุภัณฑ์มีภาษาจีนชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้ว่า พอตำรวจระดับสูงคนนี้เกษียณอายุราชการ ลูกน้องต่างพากันถูกย้าย ทำให้เรื่องการกวาดล้างยาเสพติดจะต้องเริ่มต้นใหม่
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดี "ผับจินหลิง" มองว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีตั้งเเต่ในช่วงเเรก มีส่วนทำให้คดีเสียหาย เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีการทิ้งของกลางไว้ในที่เกิดเหตุ เป็นระยะเวลาถึง 2 เดือน โดยไม่ตรวจสอบ เก็บตรวจพิสูจน์หลักฐาน และเอกสารในพื้นที่เกิดเหตุอย่างถูกต้อง รวมทั้งข้อผิดพลาดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคดี
มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ทำให้มีความเสียหายต่อรูปคดี กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ มีการทำลายหลักฐานพยานเอกสาร ทำให้ผู้ต้องหาได้รับโอกาสใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง จากฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง หากยังคงปล่อยให้อยู่ในตำแหน่ง ผบช.น. ต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจแแห่งชาติ พิจารณาอย่างเร่งด่วน โยกย้าย พล.ต.ท.ธิติ ออกจากการกำกับดูแลพื้นที่นครบาลโดยเร็ว "นายตู้ห่าว" เป็นเเค่ตัวเเทนคนหนึ่ง ไม่สามารถดำเนินการได้ หากปราศจากการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่รัฐ "นายตู้ห่าว" ได้รับการสนับสนุนจากคนที่เกินอำนาจ ของอัยการเเละตำรวจ ขอส่งสัญญานไปยังนายกฯ ในการกวาดล้าง ทุนจีนเทา
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การที่คนจีนมาเที่ยวไทยเป็นเรื่องที่ดี เเต่ไม่ใช่มากระทำการผิดกฎหมาย จนกระทั่งสามารถประกาศได้ว่า สามารถซื้อหมดได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ ศาล นั้น ตนมีคลิป "นายตู้ห่าว" พูดออกมา ทำไมคนระดับ ผู้บัญชาการขับรถคันละ 30 ล้านบาท ได้ มีคอนโดหลังสวนมูลค่า 40 - 50 ล้านบาทได้ ทั้งที่เงินเดือนรัฐไม่กี่หมื่น ถ้านโยบายนายกฯ ปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การแสดง ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ถือเป็นสิ่งที่นายกฯ ต้องจัดการ
มิฉะนั้นจะเปิดเผยพฤติกรรมของ "นายตู้ห่าว" ในต่างประเทศ ที่มีการแอบอ้างนำภาพบุคคลระดับสูง ไปขึ้นป้ายบิลบอร์ดที่มณฑลซานซี พร้อมข้อความโฆษณา หากมาที่ประเทศไทย จะได้รับการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจต่าง ๆ โดยสามารถชี้เป้าให้ติดต่อใคร ประสานใคร ซึ่งที่ปรากฏบนป้ายถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
การที่ไปโฆษณาก้าวล่วงแบบนั้น และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังนิ่งเฉย หากตนเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ออกมา ย่อมส่งผลกระทบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจนที่สุด จึงขอเตือนว่า หากยังไม่ดำเนินการตำแหน่งเล็ก ๆ อย่าง ผบช.น. ที่ดูแล กทม. ได้ แล้วจะดูแลประชาชนได้อย่างไร ทั้งนี้ เชื่อว่า "นายตู้ห่าว" มีโอกาสจะหลุดคดี ทั้งการตั้งข้อหาช้า ออกหมายจับล่าช้า ส่งผลให้เห็นกระบวนการยุติธรรมการทำสำนวนมีปัญหา