ตร. ตรวจรถหรูของกลางคดีผับจินหลิง เจอหลักฐานเอี่ยว "ตู้ห่าว-ทุนจีนสีเทา"

27 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักงาน ปปส.​กทม. และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปเปิดรถยนต์ของกลางจำนวน 11 คัน จากที่ตรวจยึดไว้ 35 คัน จากคดีผับจินหลิง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• “นายกฯ”สั่งหน่วยงานร่วมมือกวาดล้าง “ทุนจีนสีเทา” ข้ามชาติแจ้งคืบทุก 15 วัน 
• ด่วน! ศาลให้ประกัน "เมียตู้ห่าว" ตีราคา 2 ล้าน สั่งห้ามออกนอกประเทศ
• คุมตัวฝากขัง "พ.ต.อ.หญิง" เมียตู้ห่าว เจ้าตัวนิ่งไม่ให้สัมภาษณ์
• เปิดเบื้องลึก จับ 8 ผู้ต้องหา "สมคบฟอกเงิน" เชื่อมโยง "ตู้ห่าว"

โดยพบว่า รถทั้ง 11 คัน ยังไม่เคยถูกเปิดเพื่อเก็บลายนิ้วมือ รวมทั้งดีเอ็นเอ และเอกสารภายในรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่เป็นรถของ นายทุนจีนสีเทา ที่มีความเกี่ยวข้องกับ "นายตู้ห่าว" โดยเฉพาะรถยนต์อัลพาร์ด สีดำ ซึ่งจากเอกสารภายในรถพบว่า เป็นของ "นายหยาง เฉิน" ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายตู้ห่าว 

และอีกคันคือรถยนต์โรลสรอยส์  ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยพบว่า รถยนต์คันดังกล่าว มีความเชื่อมโยงไปถึงคอนโดมิเนียมหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านตากสิน ที่ก่อนหน้านี้ มีการตรวจค้นไปแล้วสองครั้ง และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไว้จำนวนมาก

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้ เป็นการตรวจเก็บลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอภายในรถแต่ละคัน ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่ได้เปิดตรวจ จึงต้องทำให้ครบถ้วนนอก จากนี้ยังมีหลักฐานอีกหลายรายการ ที่ไม่ได้ถูกตรวจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชิปแลกเงิน สำหรับเล่นการพนัน ถาดรองไม้ ซึ่งน่าจะใช้เป็นถาดรองยาเสพติด สำหรับสูดดม และยังมีหลอดสำหรับเสพยา ตกกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ 

ยืนยันว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวน ได้ดำเนินการในส่วนของคดี "นายตู้หาว" ครบแล้ว 100% ที่เหลือเป็นส่วนของสำนวนการสอบสวน ซึ่ง บช.น. เป็นผู้รับผิดชอบ ทางทีมสืบสวนไม่มีความเกี่ยวข้อง 


ส่วนปัญหาที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เป็นห่วงนั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะถึงปัจจุบันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามาดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเอง ดังนั้นการทำงานจากนี้ไป ก็ต้องเป็นไปตามกลไก ส่วนจะมีการบันทึกหลักฐานชิ้นใด เกี่ยวข้องกับในคดีใดบ้าง ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของนครบาล 

ขณะที่ นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักงาน ปปส.​กทม. กล่าวว่า การตรวจเก็บหลักฐาวันนี้ จะนำไปเป็นหลักฐานสำคัญ ในการเชื่อมโยงข้อมูลในคดีต่าง ๆ โดยขณะนี้ทาง ปปส. ได้มีการยึดอายัดทรัพย์ไว้แล้ว กว่า 4,400 ล้านบาท และไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะทรัพย์สินที่ยึดมา เป็นทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องกับคดี และมีความเกี่ยวเนื่อง จึงต้องยึดมาตรวจสอบ โดยกระบวนการในการดำเนินการของ ปปส. จะต้องเริ่มขึ้นหลังจากคดีอาญาสิ้นสุดแล้ว

นอกจากเก็บพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ ในรถยนต์ทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยังได้ทำบันทึกตรวจยึด และตรวจเก็บหลักฐานดีเอ็นเอ จากกองวัสดุที่ถูกนำมาวางรวมไว้กลางลาน ซึ่งพบว่า มีทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานบันเทิง ถ้วยชามแก้ว ขยะ รวมไปถึงเศษอาหาร จำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ขณะที่ภายในหลายห้องของผับจินหลิง ยังอยู่ระหว่างการตรวจเก็บวัตถุพยาน ของกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งยังไม่เปิดให้บุคคลใดเข้าไปภายในได้ 


ทั้งนี้การดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้า กินเวลาต่อเนื่องมาถึงช่วงบ่าย มีการระดมช่างกุญแจฝีมือดี ที่สามารถเปิดรถยนต์ที่ทันสมัย เป็นระบบไฟฟ้า มาช่วยเปิดประตู เนื่องจากกุญแจทั้งหมด ไม่มีใครยอมรับว่าอยู่ที่ไหน โดยรถยนต์คันที่เปิดยากที่สุด เป็นรถยนต์เบนซ์สีดำ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นของนายทุนจีนสีเทา ที่มีความเชื่อมโยงกับคดียาเสพติดสำคัญ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเปิดอยู่นาน 

จะเห็นได้ว่า การเข้าตรวจสอบวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากที่ "นายชูวิทย์" ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดการดำเนินการจึงไม่ทำให้แล้วเสร็จในวันที่มีการจับกุม ทั้ง ๆ ที่สถานที่ทั้งสามแห่งติดกัน ซึ่งในเรื่องดังกล่าว รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในชุดจับกุม เนื่องจากในวันที่เกิดเรื่อง เป็นการดำเนินการของชุดจับกุม จาก บช.น. จึงไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้