20 ธันวาคม 2565 ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ อาคาร เอ ชั้น 9 ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. คณะทำงานคดีตู้ห่าว นำโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เดินทางเข้าร่วมประชุมนัดแรกกับ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด
ภายหลังที่ น.ส.นารี ได้ลงนามคำสั่ง ของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2167/2565 แต่งตั้งคณะทำงานกำกับการสอบสวนและการดำเนินคดีกับนายชัยณัฐร์ กรชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว กับพวก ที่ถูกดำเนินคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาอี, เฮโรอีน) อันเป็นการมีไว้จำหน่ายเพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐฯ, สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
มีรายงานว่าคณะทำงานทั้งหมดเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพและงดแถลงข่าวหลังประชุม ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำนักงานอัยการสูงสุด จะทำข่าวแจกสื่อมวลชนภายหลัง หลังมีการพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้มีหนังสือมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุดว่าคดีดังกล่าวเข้าเงื่อนไขความผิดตามกฎหมายที่ได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทยตามมาตรา 20 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
หลังประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ผบ.ตร. เปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังรับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร โดยมี นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษา เพื่อวางกรอบแนวทางและจะให้โฆษกอัยการสูงสุดเป็นผู้แถลงความคืบหน้าแต่เพียงผู้เดียวเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน แต่เบื้องต้นยืนยันว่า การประชุมครั้งนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียก นางสาวพัชรินทร์ คนใกล้ชิดตู้ห่าว และนิติบุคคลอีก 21 บริษัท เป็นจำนวน 10 คน เพื่อมาสอบปากคำในฐานะพยานก่อนรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินภายใน 30 วัน
สำหรับข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ ดีเอสไอต้องประมวลส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา หากพบว่าเข้าองค์ประกอบ อัยการสูงสุดจะเป็นผู้สั่งคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ แต่หากไม่เข้าองค์ประกอบ ดีเอสไอก็จะสอบสวนในส่วนของคดีฟอกเงิน การตั้งนอมินี และการถือหุ้นต่าง ๆ ส่วนตำรวจก็จะดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามเดิม