svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” เรียกสอบเพื่อนร่วมรุ่น เอี่ยวแปลงวีซ่าทุนจีน สั่งฟันหากผิดจริง

“บิ๊กโจ๊ก” เรียกสอบอดีตผู้การฯ ตม. เพื่อนร่วมรุ่น และ 27 หัวหน้าสถานี ตม. เอี่ยวปมแปลงวีซ่า หากพบผิด ดำเนินการไม่ละเว้น ขณะที่วันนี้ 2 นอมินีตู้ห่าว เข้าให้ปากคำเส้นทางการเงินตามหมายเรียก

8 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า คดีทุนจีนสีเทา ว่า วันนี้ได้เรียกตัวอดีตนายตำรวจระดับสารวัตร ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยานายตู้ห่าว ที่เป็นตำรวจยศพันตำรวจเอก กองการต่างประเทศ มาให้ปากคำ ในกรณีที่มีรายชื่อ เป็นกรรมการบริษัท 3 - 4 แห่ง ที่มีนายตู้ห่าวเป็นกรรมการร่วมด้วย และเรียก น.ส.สุชาดา คนใกล้ชิด "ตู้ห่าว" มาสอบปากคำ โดยทั้ง 2 รายอยู่ระหว่างเข้าให้ปากคำกับตำรวจ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 
ตม. จ่อทบทวนหลักเกณฑ์ "เปลี่ยนวีซ่า" หลัง "ชูวิทย์" แฉ! เอื้อทุนจีนสีเทา
๐ “สุชาดา” ผู้ถือหุ้นบ.เครือข่าย “ตู้ห่าว” เข้าให้ปากคำตร.
"ชูวิทย์" แฉเพื่อนร่วมรุ่น "บิ๊กโจ๊ก" เอี่ยวเอื้อทุนจีนสีเทาทำธุรกิจในไทย
บุกสภาฯ "ชูวิทย์" แฉอีก! หน่วยงานรัฐ คนสะสมนาฬิกา เอี่ยวทุนจีนสีเทา 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับ น.ส.สุชาดา ถึงแม้ไม่ได้มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท แต่ก็มีหน้าที่เบิกจ่ายเงิน ลักษณะเดียวกันกับ "น.ส.พัชรินทร์" จึงต้องเรียกมาชี้แจงให้ครบถ้วน ถึงแม้ที่ผ่านมา ทั้ง น.ส.พัชรินทร์ และ น.ส.หลิน จะให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร รวมถึงแม้ว่าทั้ง 4 คน จะไม่ให้ความร่วมมือก็ตาม แต่ยืนยันว่า ทางตำรวจมีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงิน ถึงแม้ว่าทั้ง 4 คน จะยังไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนบริษัทของนายตู้ห่าว จะเกี่ยวข้องกับการแปลงวีซ่านักท่องเที่ยวจีนหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทของนายตู้ห่าว ทำหน้าที่แนะนำคนจีนเท่านั้น แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแปลงวีซ่า 

 

“สุชาดา” ผู้ถือหุ้นบ.เครือข่าย “ตู้ห่าว” เข้าให้ปากคำ ตร.
 

ส่วนกรณีที่มีคนกลาง เป็นตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแปลงวีซ่า ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกหัวหน้าสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทั้ง 27 แห่งไว้แล้ว พร้อมให้นำเอกสารมาให้ และสอบปากคำ แต่พบว่า มีตำรวจบางนาย ยังไม่นำเอกสารมาให้

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ได้สั่งให้นำเอกสารมาให้ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หากใครไม่นำมา หรือมีการปลอมแปลงเอกสารก่อนนำมามอบ ประเด็นนี้ทางตำรวจไม่เป็นกังวล ยืนยันว่า มีข้อมูลของเอกสารทั้งหมดครบแล้ว รวมไปถึงทั้ง 3 นายพลตำรวจที่ถูกพาดพิงว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการอำนวยความสะดวกในการแปลงวีซ่าให้กลุ่มชาวจีนมาชี้แจงด้วย 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะดำเนินการตามขั้นตอน แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 ด้วยกันก็ตาม โดยไม่ละเว้น หากพบผิดก็จะดำเนินการถึงที่สุด แต่ทราบว่า บางนายเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะมีการออกหมายเรียกมาให้ข้อมูล ในฐานะพยานเหมือนหัวหน้าสถานี ตม.ทุกนายที่เรียกมาก่อนหน้านี้
 

“ยืนยันว่าเมื่อสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็ได้กวดขัน และจับกุมอย่างเข้มงวด จนไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดกล้าทำผิด และไม่มีกลุ่มคนจีนกล้าทำเรื่องประเภทนี้”


ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดบนเครื่องบินส่วนตัวของนายตู้ห่าว ที่ปรากฏว่า ไม่พบสารเสพติด ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถึงแม้จะไม่พบสารเสพติด ก็ไม่มีผลกระทบกับคดีหลัก ที่นายตู้ห่าวถูกดำเนินคดียาเสพติด เนื่องจากการตรวจค้นเครื่องบิน เป็นส่วนหนี่งของการตรวจสถานที่ เพื่อนำมาประกอบสำนวนเท่านั้น 

 

"ชูวิทย์" แฉเพื่อนร่วมรุ่น "บิ๊กโจ๊ก" เอี่ยวเอื้อทุนจีนสีเทาทำธุรกิจในไทย