1 ธันวาคม 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ถูกทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวาดล้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
๐ "ชูวิทย์" แฉชื่อนอมินี"ทุนจีนสีเทา" จ่อเปิดเส้นทางการเงินใครเอี่ยวบ้าง
๐ "บิ๊กโจ๊ก" เผย จ่อเอาผิดตำรวจช่วยเครือข่าย "ตู้ห่าว" ระบุจับแล้ว 102 ราย
๐ ตร.สนธิกำลังค้น 5 จุด 8 บริษัท ยึดทรัพย์ “ตู้ห่าว”
๐ "ชูวิทย์" เปิดตัวละครใหม่ ทุนจีนสีเทา "หลิน หลง" ใส่ชุดทหารหลอกจีนด้วยกัน
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตั้งข้อครหา ถึงการยื่นหลักฐานเกี่ยวกับทุนจีนสีเทาต่อตน ในฐานะคนเปิดเผยข้อมูลว่า ทำไมมีข้อมูลเยอะ วันนี้จึงมายื่นเอกสารถึง รอง ผบ.ตร. อีกครั้ง เพราะเกิดความเคลือบแคลง แต่ไม่ใช่การสืบสวนของตำรวจ เพราะตำรวจทำหน้าที่ได้เต็มที่ แต่กระบวนการยาเสพติดเกี่ยวพันไปถึง ป.ป.ส. , ปปง. และหน่วยราชการอื่น ๆ ด้วย จึงมีความล่าช้า ในการตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งตนจะแถลงรายละเอียดต่อไปในเวลา 15.00 น. ของวันนี้
นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลชุดนี้ ที่มอบให้ รอง ผบ.ตร. เป็นข้อมูลสำคัญที่สุด เป็นเรื่องเส้นทางการเงินแบบชัดเจน 100% เหตุที่นำมายื่น เนื่องจากเห็นว่า มีการขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่การขยายผลของตำรวจ ทำได้อย่างดีและครอบคลุมแล้ว
"การที่พลเมืองดีเอาข้อมูลต่าง ๆ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถูกตั้งข้อสังเกตนั้น เช่นนั้นมองว่า อย่ามีพลเมืองดีเลย ให้ต่างคนต่างอยู่ พร้อมถามกลับคนที่ตั้งคำถามว่า อยากให้ทำแบบนั้นใช่หรือไม่ หากเป็นสังคมตะวันตก เมื่อพบคนผิดทุกคนช่วยกัน แต่สังคมไทยมีแต่คนบอกสู้ ๆ ให้ระวังตัว อยากถามกลับว่า ให้สู้กับใคร และต้องระวังเรื่องอะไร"
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า "นายตู้ห่าว" ยังถือสัญชาติจีนอยู่ จึงอยากให้สอบถามไปยังสถานทูตจีนว่า "นายตู้ห่าว" ยังใช้พาสปอร์ตจีน ในการเดินทางหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายจีนไม่สามารถถือ 2 สัญชาติได้ ถ้าพาสปอร์ตจีนยังถืออยู่ พาสปอร์ตไทยต้องถูกยกเลิก และส่งตัวกลับไปยังประเทศจีน