1 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้ากรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เปิดตัวละครใหม่ "ทุนจีนสีเทา" คือ หลิน หลง ที่มีพฤติกรรมแต่งชุดนายทหารยศพันเอก หลอกเพื่อนร่วมชาติ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยรายชื่อ"นอมินี" ของกลุ่ม"ทุนจีนสีเทา" เพิ่มเติมระบุว่า..
ทุนจีนเทาและนอมินี
การทำงานของบรรดา “มาเฟียจีน” ต้องมี “นอมินี” เป็นตัวแทนออกหน้าเสมอ
ทั้งหมดใช้วิธีการหลายรูปแบบที่ผิดกฎหมาย หลอกลวงคนจีนด้วยกัน โดยใช้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลาง”
พวกทุนจีนเทาเหล่านี้จะไม่สามรถทำได้ หากประเทศนั้นมีระบบราชการที่เข้มแข็ง จ่าย เคลียร์ คอรัปชั่นไม่ได้ เช่น สิงคโปร์ พวกนี้ไม่กล้าแหยมเข้าไป
แต่ เขมร พม่า ลาว ไทย จีนเทาจะออกอาละวาด ตั้งแก๊งพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ บ่อนการพนัน ผับบาร์ ไปจนถึงยาเสพติด
เมื่อได้เงินมาก็ฟอก ตำรวจไปจับขยายผลพบบ้านหรูหลังละ 50 ล้าน ถึงหลายร้อยล้าน ซื้อกันยกหมู่บ้าน หรือซื้อคอนโดหรูยกชั้นด้วยเงินสด คนไทยเลยกลายเป็นชนส่วนน้อยในชุมชน
เงินจีนเทา ผ่านกระบวนการฟอกเงิน เช่น นายตู้ห่าวมีที่ดินเป็นร้อยแปลงทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต ขยายกิจการใหญ่โตด้วยการช่วยเหลือของตำรวจใหญ่ในอดีต ชื่อย่อ ป. และ ฉ.
ทั้งสมยอมเต็มใจ เพราะอยู่ในไหใบเดียวกัน บ้างก็ได้หุ้นลม บ้างก็ได้ส่วนแบ่ง
หรือจีนเทาบางกลุ่มใช้วิธีการ “เช่า” นอมินีตัวแทน ผ่านการช่วยเหลือของสำนักงานกฎหมายบางแห่ง ที่หากินกับคนจีนโดยเฉพาะ
สำหรับ โดยมี อัตราค่าจ้าง "นอมินี" ตามนี้
อัตราเหล่านี้ไม่ได้ยกเมฆ ดูเอกสารภาษาจีนในคอมเมนต์
เรื่องของ ทุนจีนสีเทา และหลักฐาน จะแถลงข่าวภายในอาทิตย์นี้ เพื่อ “อัปเดต” ให้สังคมทราบ ว่าหน่วยงานรัฐไหน “แกล้งหลับหูหลับตา” ลักหลับช่วยเหลือ รับผลประโยชน์
พรุ่งนี้จะนำเอกสาร “เส้นทางการเงิน” ที่ชัดที่สุดของตู้ห่าว เพิ่งดึงข้อมูลการเงินมาจากระบบ “คลาวด์” สดๆ ร้อนๆ
ขอส่งให้ ผบ.ตร. และรองทั้งสอง คงไม่แกล้ง งง ทำตัวพะว้าพะวังคิดกังขาเหมือน ป.ป.ส. หลังจากผมเปิดเผยเรื่อง “ที่ปรึกษา” พัวพันกันเหนียวแน่นเหมือนไข่ลูกเขย
กระทรวงยุติธรรมของท่านรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน มีเรื่องทะแม่งๆ ของหน่วยงาน ป.ป.ส. ที่ทำท่าขึงขังตอนไปตรวจเครื่องบิน แต่แปะกระดาษไว้แค่ 3 แผ่น ต้องให้รอง ผบ.ตร. ทั้งสองไปตรวจซ้ำอีก
"พูดจริงๆ ผมหวั่นใจ กลัวเสียของครับท่านรัฐมนตรี" นายชูวิทย์ ปิดท้ายถึงความกังวล
ที่มา เพจเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์"