ชูวิทย์ มอบข้อมูลทุนจีนสีเทาให้ รองต่อศักดิ์ สัปดาห์หน้านัดชำแหละตัวการ

17 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 15.45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางเข้ามอบเอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับ "กลุ่มทุนสีเทาชาวจีน" ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการปราบปราม กลุ่มนายทุนต่างชาติ ที่ลอบทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย โดยมีการเตรียมกำลังตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย หากมีผู้เข้ามาก่อความวุ่นวาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 
๐ "ชูวิทย์" แนะใช้เงินทุนจีนสีเทา ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก คืนความสุขให้คนไทย 
๐ "บิ๊กโจ๊ก"ประกาศ 3 สัปดาห์ปิดคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา 
๐ จ่อออกหมายจับ "ทุนจีนสีเทา" 3-4 ราย ยังไม่พบ "สันธนะ" มีเอี่ยว 
๐ กินแห้ว! “สันธนะ” อดพบ “บิ๊กป้อม” หิ้วข้อมูล"ทุนจีนสีเทา"กลับบ้าน
 

 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ข้อมูลที่นำมายื่นให้ รอง ผบ.ตร. เป็นเรื่องที่สำคัญมาก แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ นายตู้ห่าวว่า มีอิทธิพลสูงมาก มีความพัวพันไปถึงทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง ซึ่งตนจะไม่พาดพิงเยอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

แต่ตนมีข้อมูลและหลักฐาน เกี่ยวกับการหลบหนีของ นายตู้ห่าว ว่า ได้รับการช่วยเหลือ โดยในวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา นายตู้ห่าว ได้หลบหนีโดยใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ที่ซื้อมาจากนักการเมืองใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่เดิมท้ายเครื่องบินจะเขียนว่า HS-PSL แต่นายตู้ห่าว ได้นำมาเปลี่ยนชื่อเป็น HS-HAO ตามชื่อของตัวเอง 

ทั้งนี้ ปกติแล้ว สถานที่จอดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว จะมีอยู่แค่ 2 ที่ คือ ของบริษัทเอกชน Mjets และที่ AOT แต่เครื่องบินลำ กลับได้จอดอยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน 604 หรือ Sunny 604 ผู้ที่จะสามารถจอดอยู่ที่นี่ได้ จะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่นายตู้ห่าวไม่ได้เป็นสมาชิก จึงน่าสงสัยว่า ใช้อิทธิพลของใคร 

นอกจากนี้ เครื่องบินลำนี้ยังเป็นเครื่องบินที่ล่องหน ไม่มีเส้นทางการบินปรากฏอยู่ในตารางการบิน ตนมีข้อมูลว่าในวันที่ 26 ต.ค. มีการเรียกใช้เครื่องบินลำนี้ โดยที่ไม่ได้แจ้งไว้ในตารางการบินล่วงหน้า เปรียบเหมือนการเรียกแท็กซี่ 

 

 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินหน้า จองเวรจองกรรม เพื่อชดใช้กรรมเก่าของตนเอง ด้วยการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความจริง เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม , วันที่ 22 พ.ย. เวลา 90.00 น. จะเดินทางไปที่ศาลอาญา และวันที่ 23 พ.ย. เวลา 08.30 น. จะเดินทางไปที่รัฐสภา เพื่อเปิดเผยขบวนการทั้งหมด รวมถึงตัวการสนับสนุนด้วย 

ฝากถึงพวกอสรพิษ ที่คิดจะล้มตนว่า ขอให้มาเจอกับตนจริง ๆ วันนี้ตนมาทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้คิดจะเล่นการเมืองหรือหาผลประโยชน์อะไร หากมีสัมภเวสีมา ตนก็ต้องสู้ ยืนยันว่าไม่กลัว ตนแจ้งกำหนดการชัดเจนแล้ว สามารถที่จะตามไปได้

เมื่อถามว่าการแจ้งหมายล่วงหน้านั้น กังวลหรือไม่ว่านายสันธนะ จะทราบแล้วตามไปพบ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้จักกับนายสันธนะ และไม่ได้ให้เครดิต ดังนั้น อยากจะพูดอะไรก็ให้พูดไป แต่ถ้าได้เจอกัน ตนก็จะเข้าไปหา และขอให้รอดูในวันพุธที่ 23 พ.ย. นี้ ว่า ตนมีอะไรจะเปิดเผย และการที่นายสันธนะ เอาเอกสารต่าง ๆ ออกมาแถลงข่าว ขอถามกลับว่า นายสันธนะ จะไปตรวจสอบใครได้ ทั้งที่ตัวเองเป็นตำรวจที่ถูกไล่ออก ถูกถอดยศ เมื่อเปิดหน้าชนกันแล้ว ก็ขอให้ไปให้สุดทาง นายสันธนะยังรู้จักตนน้อยไป แต่ถ้าคิดว่ารู้จักกันมากพอแล้ว ก็ขอให้รอดูลีลาว่า ใครจะเด็ดกว่า และย้ำว่าเรื่องนี้เป็นหนังชีวิต ตนเล่นแล้ว เล่นไม่เลิก

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  กล่าวว่า ข้อมูลที่รับในวันนี้ จะนำไปขยายผลต่อ ยืนยันว่า เรื่องนี้ตำรวจยังไม่หยุดทำ แต่ช่วงนี้ยังติดภารกิจการประชุม เอเปค 2022 จะดำเนินการขยายผลต่อแน่นอน และข้อมูลที่ได้รับจากนายชูวิทย์ หากตรวจสอบแล้วมีมูล ก็จะขยายผลต่อ เรื่องนี้ต้องทำกันอีกยาว เพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ และทางการจีนเอง ก็ให้ความสำคัญ และได้รับความร่วมมือจากทางสถานทูตเป็นอย่างดี