ภายหลัง กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงย่านสาทร ลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถจับกุมนักเที่ยวได้ 200 กว่าคน พร้อมกับยึดรถหรู และยาเสพติดจำนวหนึ่งไว้ตรวจสอบ ขณะที่นักเที่ยวทั้งหมดที่ถูกจับได้นำตัวไปตรวจสารเสพติดโรงพยาบาล
ล่าสุด พ.ต.อ. ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้กำกับการสน. ยานนาวาเปิดเผยว่า เบื้องต้นโรงพยาบาลทั้ง 4 แห่งได้ส่งผลตรวจนักเที่ยวชาวจีนที่ปัสสาวะเป็นสีม่วงอย่างเป็นทางการกลับมาแล้วพบว่ามีผู้ที่เสพยาเสพติดประเภทเคตามีนจำนวน 78 คน จึงเตรียมนำตัวผู้ต้องหา 48 คนไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้วันนี้ ในข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาอีก 30 คนให้การปฏิเสธเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้
ส่วนนักเที่ยวและผู้ต้องหาที่ตรวจไม่พบสารเสพติดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทุกคนไปควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู โดยทางตม.จะต้องเร่งตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออก พาสปอร์ตและวีซ่า รวมถึงประวัติข้อมูลเชิงลึกกับทางสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้ประกอบเป็นข้อมูลในการดำเนินการหลังจากนี้
“หากพบว่าคนใดอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือมีคดีติดตัวเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและทำประวัติผลักดันกลับประเทศ ส่วนบุคคลใดที่อยู่โดยถูกต้องตามกฎหมายเจ้าหน้าที่จะทำประวัติและปล่อยตัวไป แต่ทราบว่าขั้นตอนในส่วนนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบค่อนข้างนานเพราะต้องยืนยันข้อมูลจากประเทศต้นทางซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่ในขั้นตอนนี้จะมีผลดีคือหากพนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำในประเด็นใดก็สามารถดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมได้”
พ.ต.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับการยืนยันตัวบุคคลผู้จัดการของผับดังกล่าว ซึ่งตำรวจสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากการสอบปากคำพยานหลายปากยังคงให้การไม่เป็นประโยชน์ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการสื่อสารทางด้านภาษา จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตม. ช่วยเป็นล่ามในการแปลภาษาให้ และจะต้องมีการสอบปากคำซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน
“มีพยานบางส่วนที่พอจะยืนยันได้ว่าผู้จัดการร้านที่ตำรวจจับกุมตัวได้คือผู้ดูแลร้านตัวจริง ส่วนการขยายผลไปยังเจ้าของร้านตัวจริงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานในช่องทางอื่น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”