26 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้ากรณีที่ ตำรวจนครบาล เข้าทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน ที่อาคาร จินหลิง , อาคาร LEELA และ อาคาร WIP WUP CAR WASH ย่านยานนาวา พบลักลอบเปิดเป็นสถานบันเทิง และค้ายาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติกันอย่างโจ๋งครึ่ม ตำรวจจับกุมนักเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน รวมถึงของกลางเป็นยาเสพติดจำนวนมาก เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไม่แผ่ว ตร.คุมนักเที่ยวผับจีนตรวจสารเสพติด ไม่สลดสูบบุหรี่ สาดน้ำใส่สื่อ
: เด้ง “ผกก.ยานนาวา” เซ่นตรวจ "ผับคนจีน" เปิดเกินเวลา ปาร์ตี้ยาเสพติด
: บช.น. ทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน พบยาเสพติดจำนวนมาก เร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง
ล่าสุด พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจับกุมตำรวจนครบาล ได้เข้าควบคุมตัวนักท่องเที่ยวภายในสถานบันเทิงดังกล่าวว่า มากกว่า 229 คน โดยควบคุมตัวไปไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู พร้อมให้ทั้งหมดตรวจหาสารเสพติด ประเภทเคตามีน โดยใช้ขั้นตอนกระบวนการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ตลอดจนโรงพยาบาลที่มีเครื่องตรวจอีก 3 แห่ง
ผลปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวที่มีสารเสพติดจำนวนประมาณ 104 คน แต่อยู่ระหว่างการคัดแยกสารประกอบว่า เคตามีนที่พบในร่างกายนั้น เป็นเคตามีนจากการเสพยาเสพติด หรือได้รับมาจากแหล่งที่มาใด เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามรายงานของ สน.ยานนาวา พบว่า สถานบันเทิงแห่งดังกล่าว เคยเปิดเป็นบ่อนการพนันก่อนที่จะปิดตัวลงไป และกลับมาเปิดกิจการเป็นร้านอาหารได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ตามคำให้การของพยาน โดยเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวเป็นชาวจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้อง กับเครือข่ายสถานบันเทิงชื่อดังขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก
โดยเห็นได้จากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้จัดการ และลูกค้าที่มีการพูดคุยว่าร้านดังกล่าว ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการปิดให้บริการปรับปรุง พร้อมแนะนำให้มาเที่ยวที่ร้านดังกล่าวแทน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกหรือหมายจับเจ้าของตัวจริงมาดำเนินคดี ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต , เปิดสถานบันเทิงโดยไม่มีใบอนุญาต, และปล่อยปละละเลยให้ใช้ยาเสพติด” ส่วนผู้จัดการที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ยอมให้การใดๆ
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า จากนี้จะให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบประวัติของนักท่องเที่ยวทุกคนที่ถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อตรวจสอบการเดินทางเข้ามาภายในประเทศ, ทรัพย์สินภายในครอบครอง อาทิ เงินสด รถหรูยี่ห้อต่าง ๆ และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตรวจ เพื่อหาเส้นทางการเงิน และแหล่งที่มาของทรัพย์สินต่าง ๆ มีรายได้มาจากการทำธุรกิจอะไร เป็นการถือครองด้วยตนเอง หรือมีนอมินีตัวแทนเป็นผู้ถือครองให้
หากพบว่า ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย หรือไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ ก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ป.ป.ง. เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ
ส่วนเรื่องรถหรูที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุจำนวนถึง 35 คัน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่า มีการสวมทะเบียนโดยผิดกฎหมาย 1 คันซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของรถในที่เกิดเหตุไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนรถคันอื่น ๆ พบว่ามีเจ้าของที่เป็นทั้งคนไทย และชาวจีนจำนวนมาก แต่ไม่มีบุคคลใดนำกุญแจรถมามอบให้หรือแสดงตัวเป็นเจ้าของ
ทางตำรวจจึงยึดอายัดไว้ เพื่อรอให้เจ้าของตัวจริงนำเอกสารมาแสดงเพื่อรับรถกลับคืนไป ซึ่งพบว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีบุคคลมาแสดงตัวแล้ว แต่ไม่ได้นำเอกสารมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถปล่อยรถกลับไปได้
ขณะที่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้พบหลักฐานสำคัญคือ ใบเสร็จค่าบริการโดยเฉลี่ย โต๊ะละประมาณ 170,000 บาท ซึ่งในใบเสร็จจะระบุค่าบริการพิเศษเป็นภาษาจีน ซึ่งแปลได้ว่า เป็นค่ายาเสพติดประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท ภายในร้าน ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจหาสารเสพติด และพยานหลักฐานอื่น ๆ เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟอีก 6 ใบ โดยผู้จัดการร้านยินยอมเปิดตู้ให้ 1 ตู้พบเป็นยาเสพติดประเภทต่าง ๆ ทั้งเคตามีน happy water และอื่น ๆ ส่วนอีก 5 ตู้ ผู้จัดการ และคนงานในร้านไม่ยอมเปิดให้ จึงยึดอายัดมาเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการเจาะเปิดตู้ตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่า จะเป็นเงินสด หรือยาเสพติดที่ทางร้านเก็บไว้จำหน่าย
ส่วนกรณีที่ร้านดังกล่าวเปิดให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไม่ทราบ จะเป็นการปล่อยปละละเลย หรือไม่เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 แต่ สน.ยานนาวา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 จึงมีหนังสือคำสั่งให้ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ไปช่วยราชการซึ่งก็มาจากเรื่องดังกล่าว