จากการมีคนร้ายควงปืนบีบีกันบุกชิงทอง ร้านขายทองเยาวราช กรุงเทพ สาขาคลองสี่ ในห้างโลตัส คลองสี่ ต.บึงยีโถ อธัญบุรี จ.ปทุมธานี ชักปืนขู่พนักงานสาวแล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ กวาดทองจำนวน 16 เส้นๆ ละ 2 บาท รวม 36 บาทวิ่งย้อนลงบันไดเลื่อนทางขึ้นกระโดดข้ามไปที่บันไดเลื่อนทางลงอีกฝังและทำปืนหล่นไว้ข้างบันไดก่อนวิ่งออกประตูห้างไปขับรถจยย.หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี และตำรวจสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมไล่ตรวจเช็กกล้องวงจรปิดใกล้เคียงไล่ล่าคนร้าย เหตุเกิดวันที่ 28 กันยายน 65 เวลา 19.00 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านรายละเอียด อุกอาจ! บุกเดี่ยวชิงทองห้างฯดัง ตกใจรปภ.ทำปืนหล่นไว้เป็นหลักฐาน(ชมคลิป)
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 65 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภาค 1 ร่วมกันจับกุม นายนภฎ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาจังหวัดธัญบุรี ในข้อหากระทำความผิดกระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท่าเรือนำเที่ยวในจังหวัดพังงา ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนขยายผลค้นหาของกลางที่ สภ.ธัญบุรี
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.ภาค 1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาชิงทองได้ที่ท่าเรือ จำหวัดพังงา ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาหนีไปได้ 3-4วัน โดยไปลงเรือ ทริปตกปลาที่มีการจองกันไว้นานแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่วขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลหาของกลางว่าเอาทองไปขายที่ไหนบ้าง โดยผู้ต้องหามีประวัติครอบครองยาเสพติดถูกจับมา 2 ครั้ง
สำหรับพฤติกรรมของ นายนภฎ คนร้ายได้มีการวางแผนก่อนลงมือชิงทองร้านขายทองเยาวราช กรุงเทพ คลองสี่ คนร้ายได้ขับรถ จยย.มาดูลาดเลาก่อน 2 วัน จากนั้นวันที่ 28 ก.ย.65 คนร้ายได้ขับรถ จยย.มาจอด และเข้าไปก่อเหตุชิงทอง จากนั้นผู้ต้องหาขับรถจยย.หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจกล้องวงจรปิด พบ รถจยย.คนร้ายเลี้ยวไปทางเลียบถนนมอเตอร์เวย์ ก่อนที่รถจยย.ของคนร้ายจะหายไปช่วงถนนคลองหลวงอย่างน่าสงสัย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช็กกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด จนพบคนร้ายได้นำรถกระบะตู้ทึบมาจอดทิ้งไว้ จากนั้นได้ยก รถ จยย. คันที่ใช้ก่อเหตุชิงทองยกขึ้นใส่กระบะตู้ทึบแล้วขับหลบหนีไป
ผู้ต้องหา อ้างว่า เป็นหนี้เงินที่เก็บจากกลุ่มเพื่อนที่สระบุรี ที่จัดทริปตกปลาไว้เอาเงินไปใช้หมด จึงวางแผนก่อเหตุชิงทองร้านทอง เอาทองหลอมจำนวนหนึ่งไปขายจ่ายค่าเรือ จำนวน 70,000 บาท พร้อมซื้ออุปกรณ์ตกปลากว่าหนึ่งแสนบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบทราบพบผู้ต้องหาหนีไปลงเรือทริปตกปลาที่จังหวัดพังงา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับประสานตำรวจภาค 8 และตำรวจจัวหวัดพังงา ไปเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท่าเรือนำเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผล และจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบหลังก่อเหตุในวันรุ่งขึ้น ผู้ต้องหาได้เอาทอง 2 เส้น ให้เพื่อนไปขายที่คลอง 12 ได้เงิน 50,000 บาท ถัดมาอีกวัน เอาทอง 4 เส้นหนัก 8 บาท ให้เพื่อนขายที่ร้านเดิม แต่ร้านทองไม่กล้ารับซื้อ จึงไปขายให้เพื่อนอีกคนได้เงิน 22,000 บาท
จากนั้นวันที่ 2 ต.ค. นำทอง 3 เส้น หนัก 2 บาท นำไปแลกร้านทองคลอง 4 ได้แหวนทอง 1 วงก่อนเอาไปขายต่อได้เงิน 27,400 บาท และเอาทองอีก 1 เส้นให้เมียเอาไปขายได้เงิน 52,0000 บาท
จากนั้น ผู้ต้องหาหนีไปถึง จ.ชุมพร เอาทองไปขายได้เงิน 50,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดนำไปเที่ยวลงเรือค่าทริปตกปลาที่จังหวัดพังงากับกลุ่มเพื่อนสระบุรี
โดยการทำแผนเริ่มจากบริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสคลองสี่ธัญบุรี จุดที่คนร้ายจอดรถจยย.ฮอนด้ารุ่นคลิ๊กที่ใช้เป็นยานพาหนะ จุดทางเข้าห้างสรรพสินค้า จุดทางขึ้นบันไดเลื่อน และภายในร้านทองจุดที่ลงมือก่อเหตุ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีการกั้นพื้นที่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ด้านนอก โดยหลังทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมทันที ซึ่งผู้ต้องหาได้มีการยกมือไหว้ขอโทษพนักงานร้านค้าทอง
ข่าว-ภาพ : อนันต์ วิจิตรประชา ปทุมธานี