วันที่ 18 สิงหาคม 2565 "กัน จอมพลัง" หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายเป็นทหารหญิงรับใช้ที่ถูกบุคคลอ้างเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ซึ่งเป็นเจ้านาย ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ถึงขั้นใช้ที่ชอร์ตไฟฟ้า จี้ตามศีรษะและตัว เอาไม้ฟุตเหล็กสับหน้า ไม้ตีดั้งหัก หัวแตก ไปออกรายการชื่อดัง ย่านพระราม 4
ภายหลังออกรายการทาง น.ส.เอ เปิดเผยว่า เดิมตนเป็นลูกจ้างร้านกาแฟของเจ้านายซึ่งอ้างว่าเป็น ส.ว.แล้วฝากให้เป็นทหาร โดยให้สัญญาว่าต้องคอยดูแลรับใช้ ซึ่งช่วงแรกที่ไปทำงานที่บ้าน ก็มีเจ้านายเป็นตำรวจ ยศสิบตำรวจเอกหญิง(ส.ต.อ.หญิง) คาดว่ามีสังกัดอยู่กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(บก.อก.บช.ส.) ซึ่งต้องอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน
จนเมื่อเริ่มทำงานให้แล้ว แต่ทำไม่ถูกใจ หรือพูดไม่เข้าหู เพราะไม่มีหางเสียง ก็เริ่มถูกทำโทษแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการใช้มือตบตี ใช้มีดมาขู่ ใช้ไม้ฟุตเหล็กไม้ถูพื้นตี และใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า ช็อตตามร่างกายในร่มผ้า และเคยโดนช็อตที่ปากเพราะในปากมีน้ำลาย นำไฟฟ้าได้ดี แม้กระทั่งถูกฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์จุดไฟเผาหัว
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เข้าไปทำงานที่บ้านหลังดังกล่าว เป็นเวลาเกือบ 2 ปี แทบไม่เคยได้ออกจากบ้านเลย ซ้ำตนต้องขายรถ โน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์ เครื่องประดับ ให้เงินเจ้านายไป 270,000 บาท ไม่รวมกับเงินเดือนที่ถูกยึดไปในแต่ละเดือน บางครั้งต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ รวมถึงซื้ออาหารกินเอง แม้ตนจะถูกทำร้ายก็ไม่เคยส่งไปรักษาพยาบาล เพียงแต่ให้กินยาให้หายเอง อย่างจมูกตนหักมาเดือนกว่าก็ยังไม่ได้รักษา หายใจได้จากจมูกข้างขวาข้างเดียว โดยตนยังถูกข่มขู่ว่าถ้าคิดหลบหนี จะตามมาหิ้วตัว
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่ารู้จักกันกับเจ้านายมาก่อนก็ไม่ได้เอะใจที่มีการฝากให้เป็นทหารแต่เข้ามารับใช้ตำรวจ ทั้งนี้ ตนก็ไม่เคยเจอตัว ส.ว.รายนี้เลย ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ตอนนี้ต้องการขอให้ครอบครัวปลอดภัยก็พอ และไม่คิดจะกลับไปทำงานอีกแล้ว ขณะเดียวกัน ตนยังติดหนี้กับเจ้านายเป็นเงินกว่า 70,000 บาท จากการที่ลาออกจากราชการ โดยอ้างว่าเป็นค่าที่ฝากตัวเองเข้าไปทำงาน ซึ่งพ่อแม่ไปเจรจาพร้อมคืนเงินให้แล้วแต่คู่กรณีไม่ยอม และยังจะเอาเงินอีก 450,000 บาท
ด้าน แม่ผู้เสียหาย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนลูกโทรศัพท์มาลาตนก็ใจหาย จึงไปรับกลับโดยที่ลูกไม่รู้ แต่เจ้านายก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอม จึงไปขอกำลังตำรวจมาพาตัวออกไป พอพบลูกก็เปิดแผลให้ดู เห็นสภาพหน้าแตก ดั้งหัก โดยสัปดาห์ก่อนต้องขายทรัพย์สินหาเงินไปให้
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์ปริศนาอ้างเป็นนักกฎหมายมาข่มขู่ก่อนเข้ารายการว่าให้หยุด ยืนยันจะไม่หยุด หากมีใครจะออกตัวมาช่วย ต้องบอกเลยว่าประเทศไทยเลิกทาสมานานแล้ว หากผู้เสียหายไม่ได้รับความช่วยเหลือคงเสียชีวิตในบ้านไปแล้ว เพราะผู้เสียหายได้โทรศัพท์ไปบอกลาพ่อแม่ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงแจ้งตำรวจแล้วขอกำลังไปพาตัวออกมาจากบ้าน
“ผู้เสียหาย ยังเล่าด้วยว่า เวลาคู่กรณีจะทำอะไรต้องถ่ายคลิปตอนเหยื่อถูกทรมานไว้ด้วย คนปกติคงไม่ทำเช่นนี้ ซึ่งตัวผู้เสียหายเองก็มีการศึกษาดี เตรียมที่จะเข้ารับปริญญาโท ในเร็วๆนี้ แต่ยังรู้สึกหวาดกลัว ตนยืนยันจะเดินทางไปร่วมพิธีด้วยเพื่อให้เหยื่อสบายใจ หลังจากนี้จะพาเหยื่อแจ้งความ สภ.เมืองราชบุรี” กัน จอมพลัง กล่าว
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาล อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจในสังกัดจริงหรือไม่ ก่อนที่จะแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนต่อไป