svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"วันตำรวจ" เปิดป้ายใหม่เพิ่มอีกจุด -ขนาดใหญ่กว่าเดิม

"วันตำรวจ" สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดสร้างป้ายขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด ตั้งอยู่ด้านหน้า ประตูทางเข้าด้านถนน พระราม 1 โดยมีขนาดใหญ่กว่าป้ายเดิม ซึ่งมีระยะห่างจากป้ายเดิมเพียงแค่ 10 เมตรเท่านั้น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่ 17 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเดิม วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 กระทั่งเมื่อปี 2560 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากมีการจัดพิธีทางศาสนาพร้อมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามจุดต่างๆตามปกติเช่นเดียวกับวันตำรวจของทุกปีแล้ว ในปีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดสร้างป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขนาดใหญ่อลังการ เพิ่มขึ้นใหม่อีกหนึ่งจุด โดยตั้งอยู่ด้านหน้า ประตูทางเข้าด้านถนนพระราม 1 มีขนาดใหญ่มีระดับสูงกว่าของจุดเดิมที่ตั้งอยู่กลางระหว่างประตูทางเข้าออก ซึ่งในขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึง 2 จุด ตั้งอยู่ระยะห่างกันเพียงแค่ 10 เมตร

\"วันตำรวจ\" เปิดป้ายใหม่เพิ่มอีกจุด -ขนาดใหญ่กว่าเดิม


สำหรับ"ป้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" จุดเดิมนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทำพิธีเจิมแผ่นป้ายชื่อ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2541 หลังมีพระราชกฤษฎีกา ถ่ายโอนให้กรมตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย มาขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี และให้เปลี่ยนชื่อจาก กรมตำรวจ เป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับประวัติความเป็นมาของป้ายชื่อหน่วยงานขององค์กรตำรวจ ว่า แรกเริ่มมีการจัดทำขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยขณะนั้น พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ เป็นอธิบดีกรมตำรวจ หลังจากที่มีการอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มาประดิษฐานที่หน้าอาคาร 1 เมื่อมองเข้ามาจากภายนอก จะเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์เด่นเป็นสง่า แต่รั้วหรือประตูยังไม่เรียบร้อย จึงมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม โดยมีการจำลองบานประตูรั้ว มาจากรั้วของพระที่นั่งอนันตสมาคม และเสาไฟประดับ จำลองมาจากโคมไฟหน้าสถานทูตอังกฤษ ส่วนป้ายชื่อทำจากหินแกรนิต ติดตัวหนังสือ เขียนข้อความในตอนนั้นว่า กรมตำรวจ ทำขึ้นจากสแตนเลส ราคาจัดทำตอนนั้นประมาณ 50,000-60,000 บาท
กระทั่งปี พ.ศ. 2541 หลังจากที่มีการโอนและเปลี่ยนชื่อหน่วยงานมาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีการจัดพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล โดย พล.ต.ต.พจนารถ หวลมานพ ซึ่งในขณะนั้นเป็นรองเลขานุการตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานเพื่อกราบทูลเชิญสมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นประธานในพิธีเจิมป้ายเพื่อความเป็นสิริมงคล และเปลี่ยนป้ายชื่อใหม่จาก กรมตำรวจ เป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนแรก เข้าร่วมในพิธีด้วย"

\"วันตำรวจ\" เปิดป้ายใหม่เพิ่มอีกจุด -ขนาดใหญ่กว่าเดิม

"ซึ่งป้ายนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ให้รู้ว่า หน่วยงานแห่งนี้เป็นที่ทำงานของส่วนราชการที่มีหน้าที่ด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และดูแล ป้องกันความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนและสังคม ถือเป็นความภาคภูมิใจ เป็นเกียรติภูมิของหน่วย" และความภาคภูมิใจของตำรวจที่มีต่อป้ายชื่อองค์กร นอกจากป้ายชื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงเจิมเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ภายในสำนักงานตำรวจฯ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าราชการตำรวจทุกคนเคารพ และถือเป็นเครี่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ประกอบด้วย หอพระนิรันตราย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้เป็นพระพุทธรูปประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พระนารายณ์ ที่ประดิษฐานหน้าอาคาร 19 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ศาลพระภูมิ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูใหญ่ และพระบรมราชานุสาวรีย์ ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ผู้เปรียบเสมือนเป็นพระบิดาของข้าราชการตำรวจ
ต่อมาเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2557 มีการชุมนุมทางการเมืองและได้มีการบุกทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสียหายยับเยิน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทุกคนรู้สึกเสียใจ แต่รวมไปถึงประชาชนทั่วไป หรือแม้แต่ตัวผู้ที่กระทำเอง ก็คงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งความเสียหายไม่ใช่เฉพาะแค่ป้าย หรือแค่ทรัพย์สินราชการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ความเสียหายทางความรู้สึกและจิตใจ"ของบรรดาข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไป
เหตุการณ์ทำลายป้ายชื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ขณะนั้นได้ดำเนินคดีกับผู้ที่บุกทำลายทั้งหมด 21 คน และต่อมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในขณะนั้นมอบหมายให้ พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ในขณะนั้นได้จัดทำขึ้นใหม่ให้สวยงามและยิ่งใหญ่เหมือนเดิม