svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

คมนาคมสรุปสถิติเดินทางช่วงสงกรานต์ 3 วัน อุบัติเหตุลด 9%

14 เมษายน 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

คมนาคมสรุปสถิติการเดินทางช่วงสงกรานต์ 11 - 13 เม.ย. อุบัติเหตุลดลง 9% ขนส่งสาธารณะเพียงพอไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ระบบรางครองแชมป์มีผู้ใช้บริการสูงสุด

ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ เดินทางสู่จุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกปลอดภัย นั้น ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ซึ่งข้อมูลวันที่ 11 - 13  เมษายน 2568 (สะสม 3 วัน) ประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 07.30 น. พบว่า 

ทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 695 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 79 คน บาดเจ็บ 660 คน สาเหตุจากขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 440 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 63 ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 385 คัน คิดเป็นร้อยละ 33 บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 453 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 65 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ ขอนแก่น ตาก ลำพูน สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 4 คน โดยจังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ นครราชสีมา 44 ครั้ง ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว (วันที่ 11 – 13 เมษายน 2567) จำนวนอุบัติเหตุ ลดลงร้อยละ 9 จำนวนผู้เสียชีวิต ลดลงร้อยละ 20 และจำนวนผู้บาดเจ็บ ลดลงร้อยละ 19 นอกจากนี้ พบอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางราง 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน และทางน้ำ 1 ครั้ง ส่วนทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ
 

คมนาคมสรุปสถิติเดินทางช่วงสงกรานต์ 3 วัน อุบัติเหตุลด 9% คมนาคมสรุปสถิติเดินทางช่วงสงกรานต์ 3 วัน อุบัติเหตุลด 9%

ส่วนระบบขนส่งสาธารณะทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ สำหรับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ มีจำนวนรวม 7,890,251 คน ลดลง ร้อยละ 2.08 เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปีก่อน
    
ทั้งนี้ ระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 44 ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ด้านถนน ราง น้ำ และอากาศ มีจำนวนรวม 733,673 คน ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 154,927 คน 2) ภาคใต้ : ทางถนน 99,782 คน 3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 134,328 คน 4) ภาคเหนือ : ทางถนน 52,012 คน และ 5) ภาคตะวันออก : ทางถนน 60,162 คน
    
ขณะที่การจราจรเข้า - ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทาง มีปริมาณ 3,159,240 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.01 เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปีก่อน การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 4,156,737 คัน ลดลง ร้อยละ 0.56 ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 222 แห่ง มีการตรวจรถ 44,914 คัน ไม่พบข้อบกพร่อง ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 44,914 คน พบอุณหภูมิเกิน (เป็นไข้) สั่งเปลี่ยน 2 คน ไม่พบสารเสพติด และแอลกอฮอล์ สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 411 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 159 แห่ง ตรวจเรือ 2,975 ลำ พบข้อบกพร่อง สั่งแก้ไข 8 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 4,244 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติด    
    
 

สำหรับการดำเนินงานของคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดย กรมการขนส่งทางราง ได้เน้นย้ำผู้ให้บริการระบบราง กวดขันการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางรางอย่างเข้มงวด โดยที่ผ่านมาผู้รับการตรวจทุกคนมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์
    
การรถไฟแห่งประเทศไทย ภาพรวมของจำนวนขบวนรถและตู้โดยสารที่ให้บริการมีเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และได้จัดขบวนรถพิเศษ จำนวน 5 ขบวน เสริมขาเข้า 2 ขบวน และเสริมขาออก 3 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ เตรียมรองรับการเดินทางไว้ พร้อมคงความเข้มงวดมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย โดยเฉพาะทางผ่านบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ต่อเนื่องจนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์
    
กรมการขนส่งทางบก ยังคุมเข้มความปลอดภัย พร้อมตรวจสอบรถสาธารณะห้ามเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หากพบจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด โดยผลตรวจความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถที่ทุกสถานีขนส่งและจุดจอดทั่วไทย 169 จุด  Rest Area 16 จุด และ Check Point 28 จุด รวมแล้วกว่า 17,057 คัน ไม่พบรถบกพร่องและไม่พบพนักงานขับรถบกพร่องเช่นเดียวกัน
    
บริษัท ขนส่ง จำกัด ให้บริการเดินรถด้วยความเรียบร้อยไม่มีผู้โดยสารตกค้างและได้เตรียมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ไว้รองรับการเดินสำหรับการเดินทางเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างเพียงพอ และร่วมกับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ จัดจุดจอดรถเมล์ รับ – ส่ง ประชาชนภายในสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และ MRT สวนจตุจักร เวลา 04.00 – 22.00 น.
    
กรมทางหลวง เปิดให้บริการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (M6) ช่วงหินกอง - ปากช่อง ขาออกกรุงเทพฯ ช่วยให้ระบายการจราจรได้ดีและได้เปิดให้บริการในทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ด่านปากช่อง - ด่านหินกอง จ.สระบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2568 - วันที่ 17 เมษายน 2568 เวลา 24:00 น. พร้อมทั้งการติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณทางเบี่ยงเพิ่มเพื่อความปลอดภัยด้วย
    
ขณะที่ กรมเจ้าท่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมเข้มงวดการให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ และผู้โดยสารเรือทุกลำต้องสวมใส่เสื้อชูชีพก่อนออกเรือห้ามถอดออกระหว่างการเดินทางทางน้ำ
 

logoline
News Hub