15 ธันวาคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีกลุ่มจีนสีเทา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้(15 ธ.ค.) การทำงานและความคืบหน้า ชุดพาลีปราบยาและการทำงานของ ป.ป.ส. ในคดีกลุ่มจีนสีเทา เครือข่ายของ “ตู้ห่าว” ขณะนี้ “ดีเอสไอ” ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เลขคดีพิเศษ 314/2565 ฐานความผิดฟอกเงิน ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจาก เป็นคดีการฟอกเงินยาเสพติดมูลค่าสูง กระทบวงกว้าง โดยคณะกรรมการกลั่นกรองได้เสนออธิบดีดีเอสไอ อนุมัติเป็นคดีพิเศษเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.)
ส่วนผลความคืบหน้าคดียึดอายัดทรัพย์ ก่อนหน้านี้ “ดีเอสไอ” อายัดแล้วกว่า 3,020 ล้านบาท และล่าสุดวันนี้(15 ธ.ค.) ยึดเพิ่มได้อีก 189 ล้านบาท ป.ป.ส.ยึดอายัดได้ 2,192 ล้าน ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ซ้ำกับ “ดีเอสไอ” ทำให้ขณะนี้ยอดรวมอยู่ที่ 4,401 ล้านบาท และทางป.ป.ส. กำลังออกหมายยึดอายัดเพิ่มอีก 1,123 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นายตู้ห่าว มีนอมินี เป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง “ดีเอสไอ” ได้สืบว่ามีกลุ่มคนอีก 4-5 คน ถือพาสสปอร์ตต่างชาติ คาดว่าเป็นนายทุน ซึ่งกำลังสอบสวนเชิงลึก ว่าเป็นใครบ้าง หากข้อมูลพร้อมจะได้เปิดเผยต่อไป โดยตอนนี้ได้เลขพาสสปอร์ตแล้ว คาดว่าจะเรียก มาให้ปากคำภายใน 2 สัปดาห์นี้ และจะดำเนินคดีได้ภายในไม่เกิน 30 วัน
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า ความผิดคดีอาญาฐานฟอกเงิน เป็นความผิดที่เข้าเงื่อนไขบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เพราะมีมูลค่าสูง กระทบวงกว้าง ซึ่งบอร์ดกลั่นกรอง เห็นชอบแล้วเสนอให้อธิบดีดีเอสไอ ออกเลขคดีได้ ในส่วนของคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้องนั้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดอาชญากรข้ามชาติ ต้องอยู่ที่คณะกรรมการคดีพิเศษ ที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีดีเอสไอ และอีกหลายหน่วยงานเป็นกรรมการ พิจารณาว่า จะเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ก็ยังเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนการยึดทรัพย์คดียาเสพติด ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. ดีเอสไอ ก็ดูเรื่องการฟอกเงิน ต่างหน่วยต่างทำงานในหน้าที่ของตนเอง แต่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยในการสอบสวนสามารถดึงหน่วยงานต่างๆ มาร่วมสอบสวนได้
ขณะที่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า การเป็นคนดีในสังคมต้องมีความอดทน และแสดงให้คนเห็นว่าไม่ง่าย แต่อย่าหมดกำลังใจ ตนขอบคณ นายสมศักดิ์ และทีมงาน และขอมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณ ที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตน ยืนยันว่า ต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรม ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่ได้เกลียดใครทั้งนั้น อยากทำเป็นตัวอย่างให้คนได้เห็น
วันนี้ประชาชนมั่นใจ ในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นที่พึ่งของสังคม การที่ “ดีเอสไอ” เข้ามาทำคดี จะช่วยสืบได้ทั้งหมู่บ้าน ส่วนตำรวจจะสืบบ้านไหนก็ทำไป ซึ่งการที่ “ดีเอสไอ” รับเป็นคดีพิเศษ ไม่ใช่เพราะตนมากดดัน แต่เป็นไปตามกฎหมาย
"กระทรวงยุติธรรม ถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย ถ้ามาแล้วไม่คืบหน้า ก็ไปโดดน้ำตายดีกว่า วันนี้ในนามคนไทยขอขอบคุณ และขอให้ทำคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะทำหน้าที่อย่างจริงจังแน่นอน"
พร้อมฝากคำถามไปถึง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เกี่ยวกับการดำเนินคดี “ตู้ห่าว” กับพวก เช่น เมื่อพบเกี่ยวข้องคดียาเสพติด ทำไมถึงไม่ตั้งข้อหาความผิดเกี่ยวกับการสมคบฟอกเงิน พยานหลักฐานคือค่าเช่า ค่าไฟ เงินค้ำประกัน และส่วนต่างๆ ไม่ได้พิสูจน์ว่า “ตู้ห่าว” ขายยาเสพติด แต่พิสูจน์ว่า “ตู้ห่าว” เป็นเจ้าของสถานที่ จะทำอย่างไรถึงหาข้อพิสูจน์ยืนยันเรื่องยาเสพติดได้
"มีพยานในที่เกิดเหตุจำนวนมากถึง 215 คน ต้องดำเนินการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือให้หมด เพราะคดีนี้พยานสำคัญหลบหนี ดังนั้นเท่ากับไม่มีพยาน"