ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศใช้ความพยายามที่เข้มข้นในการกวาดล้างกิจกรรมการเงินที่ผิดกฎหมาย ไปพร้อม ๆ กับปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาจจะเห็น "ความเสี่ยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้น" ขณะที่บรรดาธนาคารขนาดย่อมในเขตอุตสาหกรรมในมณฑลเหลียวหนิง มีความอ่อนไหวต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ถ้าไม่สามารถยังยั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ ก็อาจจะตามรอยเหตุการณ์อื้อฉาวที่มณฑลเหอหนาน จากการที่ธนาคาร 4 แห่ง สั่งอายัดเงินฝากของประชาชนนับพันคน ที่คาดว่ามีมูลค่าหลายล้านหยวน เนื่องจากพวกเขาถูกล่อใจด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ
นักวิเคราะห์ด้านการเงินชี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่เหอหนาน อาจเป็นเพียงส่วนปลายสุดของยอดภูเขาน้ำแข็งในแง่ของความเสี่ยงของระบบ แต่ผลกระทบใหญ่หลวงกำลังจะตามมา ถ้าหน่วยงานกำกับดูแลล้มเหลวในการควบคุม ในขณะที่ประเทศกำลังดิ้นรนกอบกู้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยนับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ชาวบ้านพากันไปรวมตัวประท้วงตามท้องถนนในเมืองเจิ้งโจว หลังพบว่าเงินที่อยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคารยู่โจว ซินมินเช็ง วิลเลจ (Yuzhou Xinminsheng Village Bank), ธนาคารเจ้อเช็ง หวงฮวย คอมมูนิตี้ (Zhecheng Huanghuai Community Bank), ธนาคารชางไค ฮุ่ยหมิน เคาน์ตี้ (Shangcai Huimin County Bank) และธนาคารนิว โอเรียลทัล เคาน์ตี้ แห่งไคเฟิง (New Oriental Country Bank of Kaifeng) ถูกอายัดตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ซึ่งตำรวจอ้างว่า เพื่อยับยั้งแผนเข้ายึดธนาคารเหล่านี้ของกลุ่มอาชญากรรม ที่ยักยอกเงินออกจากธนาคาร โดยใช้การปลอมแปลงสินเชื่อเพื่อโอนเงินออก ที่เรียกว่า "กู้ลม" โดยใช้วิธีตั้งบริษัทขึ้นมาถือหุ้นธนาคารหลาย ๆ แห่ง เพื่อบงการพวกผู้บริหารธนาคาร และเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2554
แต่การดำเนินการอายัดเงินได้สร้างความเดือดร้อนให้คนที่มีบัญชีออมทรัพย์กับทางธนาคาร ที่ไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ ทำให้พวกเขาต้องระบายความอัดอั้นด้วยการออกไปประท้วงและกลายเป็นความรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ เมื่อผู้ประท้วงที่ถูกโอบล้อมโดยตำรวจ ถูกกลุ่มชายสวมเสื้อสีขาวไม่ระบุสังกัดใช้กำลังเข้าเล่นงานจนหลายคนสะบักสะบอมไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง กลายเป็นข่าวอื้อฉาวดังไปทั่วโลก ซึ่งในที่สุดทางการท้องถิ่นได้ประกาศจะเริ่มคืนเงินให้เจ้าของบัญชีเงินฝากบางคน คนละ 50,000 หยวน (270,000 บาท) ตั้งแต่วันศุกร์ (15 กรกฎาคม) เป็นต้นไป
แต่ยังมีคำถามที่ตามมาคือ เมื่อใดเจ้าของบัญชีเงินฝากเหล่านี้จะได้เงินคืนเต็มจำนวน ที่มณฑลอันฮุยที่อยู่ใกล้เคียง ทางการท้องถิ่นได้ประกาศจะคืนในรูปแบบเดียวกันให้แก่เจ้าของบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกู่เจิ้น ซินฮวยเหอ วิลเลจ (Guzhen Xinhuaihe Village Bank) จากรายงานการจัดอันดับของธนาคารกลางในช่วงไตรมาสที่ 4 เมื่อปีที่แล้วพบว่ามีธนาคาร 24 แห่ง จากทั้งหมด 4,398 แห่งที่ถูกสำรวจ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสถานะ "ปลอดภัย" โดยทั้ง 24 แห่ง ครองสัดส่วน 70% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารที่ถูกสำรวจ ส่วนธนาคารที่ถูกจัดให้อยู่ในความเสี่ยงสูงมี 316 แห่ง รวมทั้งธนาคารในมณฑลเหอหนาน ที่มีสัดส่วนสินทรัพย์เพียง 1% ของธนาคารที่ถูกสำรวจ
แม้สินทรัพย์ของธนาคารที่กำลังเกิดปัญหาจะมีสัดส่วนน้อยมาก แต่เรื่องอื้อฉาวก็เกิดขึ้นในช่วงที่จีนเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศกำลังถดถอยลงเรื่อย ๆ ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังจะจัดประชุมใหญ่ประจำปีครั้งที่ 20 ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับการคาดหมายว่าจะอยู่ในอำนาจต่อไปเป็นสมัยที่ 3