ลัทธิชั่วร้ายกับสองครอบครัวที่หัวใจสลาย

การที่เท็ตสึยะ ยามากามิ หนุ่มว่างงานวัย 41 ปี ลั่นไกจากอาวุธปืนทำเอง ส่งกระสุนพุ่งเจาะร่างของชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 67 ปี ที่กำลังหาเสียงช่วยลูกพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่จังหวัดนาราจนถึงแก่อสัญกรรม เพียงเพราะความคิดที่จะกำจัดบุคคลที่เชื่อว่าเป็นสมาชิกระดับ "ท็อป" ของลัทธิที่ทำลายครอบครัวตัวเอง ได้กลายเป็นการ "เผื่อแผ่" ความทุกข์ที่กัดกร่อนจิตวิญญาณของเขา ไปสู่ "สตรี" อีกคน ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย

 

สตรีที่เป็นผู้ที่โศกเศร้าที่สุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "อากิเอะ" ภริยาคู่ชีวิตของนายอาเบะ ที่สามีต้องมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับโดยไม่ทันได้ร่ำลา ในวันนั้น... ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุร้าย รถของอากิเอะได้แล่นทะยานออกจากเขตชิบุยะของกรุงโตเกียว ในเวลา 12.25 น. และไปต่อรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟท้องถิ่นก่อนถึงสถานียามาโมโตะ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นารา ที่อาเบะรักษาตัวอยู่เมื่อเวลา 16.30 น. อากิเอะเดินก้มหน้าไปขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงกลับได้รับข่าวร้ายเรื่องการถึงแก่อสัญกรรมของสามี นับเป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างที่สุดที่สามีของเธอถูกพรากไปโดยที่เธอยังไม่ได้ดูใจเขา...

 

 

เส้นทางรักก่อนพลัดพราก 

 

อากิเอะเป็นบุตรสาวของอดีตผู้บริหารบริษัทโมรินางะ หนึ่งในบริษัทผลิตขนมหวานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยอาชีพพระหฤทัย เธอได้เข้าทำงานที่บริษัทเด็งสึ ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ตอนนั้นเธอใช้ชีวิตแบบสาวสังคม ชอบงานสังสรรค์ รักอิสระ และดื่มแอลกอฮอล์เก่งจนได้ฉายาว่า "คอทองแดง"

 

เธอพบกับชินโซ อาเบะ ครั้งแรกในพิธีดูตัว และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับโมเมนต์โรแมนติกที่เธอเมาจนอาเบะต้องแบกเธอกลับบ้าน ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 2530 ต่อมาในปี 2533 อากิเอะทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุที่บ้านเกิดของอาเบะที่ชิโมะโนะเซกิ จนมีชื่อเสียงในนามของดีเจอักกี (Akky) ทั้งยังยังเป็นแฟนคลับของละครเกาหลีใต้ และชื่นชอบศิลปินเกาหลีใต้อย่าง แพ ยง-จุน และพัก ยง-ฮา 

 

 

ตอนที่อาเบะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของญี่ปุ่น เธอก็เป็นสุภาพสตรีที่อายุน้อยที่สุดเช่นกัน ทั้งยังเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 คนแรกของญี่ปุ่น ที่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เธอได้รับการปกป้องคุ้มครองจากอาเบะมาโดยตลอด แม้กระทั่งตอนที่ฝ่ายค้านซักฟอกเรื่องความโปร่งใส กรณีการลดราคาที่ดินของรัฐให้แก่ผู้ซื้อที่เป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง ในราคาที่ต่ำกว่าความจริงถึง 800 ล้านเยน เพราะสามีภรรยาคู่นี้มีความสนิทสนมกับอากิเอะ และยังให้อากิเอะดำรงตำแหน่งครูใหญ่กิตติมศักดิ์ ของโรงเรียนประถมที่พวกเขาเป็นเจ้าของอีกด้วย แต่อาเบะได้ลั่นวาจาว่าถ้าเขาหรือภรรยามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็จะขอลาออกทั้งจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและลาออกจากการเป็น ส.ส.ด้วย 

 

ที่จริงอากิเอะกับอาเบะใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เข้มเรื่องการรักษาความปลอดภัยมานานแล้ว มีคนเห็นทั้งคู่เดินจูงสุนัขแถวบ้านด้วยท่าทีผ่อนคลาย ไม่มีผู้ติดตามหรืออารักขา เรื่องร้ายที่เกิดกับอาเบะทำให้เธอถึงกับอุทานและซ่อนความตกใจไม่อยู่ว่า "ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"

 

ชาวโซเชียลมีเดียได้แชร์คลิปน่ารักที่อาเบะเอาที่เคาะประตู ที่เป็นของขวัญที่ได้รับมาเมื่อครั้งไปเยือนแคนาดาไปติดที่ประตูบ้านด้วยตัวเอง โดยอากิเอะได้เฝ้ามองด้วยความพึงพอใจ... ช่างน่าเสียดายที่ความรักของทั้งคู่จบเร็วเกินไป ทั้งยังไม่มีบุตรหรือธิดาอีกด้วย...

 

 

ความสุขที่ถูกทำลายโดยความแค้น 

 

คำถามที่คาใจคนส่วนใหญ่คือ ทำไมต้องเป็นอาเบะ ที่ยามากามิต้องการระบายแค้น แต่สำหรับยามากามิมันคือการตัดสินใจของคนที่ไม่มีอะไรจะเสีย จากที่เคยมีครอบครัวอบอุ่น มีพ่อ แม่ มีพี่และน้องอีก 2 คน ก็เหมือนครอบครัวญี่ปุ่นทั่วไปพ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน ทุกปีมีโอกาสได้ไปเที่ยวทั้งครอบครัว แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พ่อของเขาจากไปกะทันหัน แม่ที่เป็นแต่แม่บ้านทำอะไรไม่ได้เมื่อขาดเสาหลัก จมปลักอยู่กับความเศร้าโศกและอ้างว้าง จนกระทั่งเพื่อนแนะนำให้รู้จักลัทธิหนึ่งที่เชื่อว่าเป็น "โทอิตสึเคียวไค" ที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลีใต้ ที่ชาวเกาหลีเรียกว่า "มูน" โดยตั้งตามชื่อผู้ก่อตั้งคือ "ซัน มยอง มูน" และเผยแพร่ภายใต้ชื่อ "ศาสนจักรสามัคคี" (Unification Church) 

 

 

 

แม่ผู้ลุ่มหลงเพราะไร้สิ่งยึดเหนี่ยว 

 

เมื่อแม่ผู้ไร้ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ตอนแรกก็เหมือนถูกป้ายยาแต่ต่อมาก็ค่อย ๆ ถลำลึกจนเข้าขั้นลุ่มหลง และถูกหลอกให้บริจาคเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้ชีวิตเหมือนถูกสะกดจิต ไม่สนใจการงานหรือแม้กระทั่งบ้าน ละเลยลูก ๆ จนเงินไม่พอใช้เป็นหนี้เป็นสิน จนกระทั่งลูกคนโตป่วย ลูกคนอื่น ๆ ก็ใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก ในที่สุดแม่ถูกฟ้องล้มละลายไม่มีเงินรักษาลูกชายที่ป่วย ทำให้เขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเพื่อหนีความทรมาน 

 

คนที่ช็อกที่สุดคือยามากามิ เพราะพี่ชายคือคนที่ดูแลน้อง ๆ ในยามที่แม่หมกมุ่นกับลัทธิ เขาเองก็โดนความทุกข์จากเรื่องนี้ค่อยกัดกร่อนจนพยายามฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อไม่ตายสักทีเขาก็เลยใช้ชีวิตอย่างเคืองแค้นและเก็บกด ซ้ำร้ายน้องสาวก็หนีออกจากบ้านและไม่กลับไปอีกเลย...

 

 

ญี่ปุ่นก็มีข่าวลือผิด ๆ แนว fake news เป็นไวรัลตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และวันร้ายคืนร้ายยากามิก็ไปเจอว่า โนบุซึเกะ คิชิ ปู่ของอาเบะเคยพบกับเจ้าลัทธิ และตัวอาเบะก็เป็นสมาชิกระดับ "ท็อป" และนั่นได้จุดประกายความแค้นที่ฝังรากลึกมายาวนาน จนนำไปสู่วันวิปโยคของครอบครัวอาเบะ