ร.ต.อ.จำรัส สืบสำราญ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 11 ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จึงประสานหน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทไธสง เข้าร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 82 ม.11 ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง พบนางกมลา หรือ แดง กองไธสง อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตบนที่นอนในลักษณะนอนหงาย ไม่สวมเสื้อผ้า มีผ้านวมมาคลุมร่างไว้ ภายในบ้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้น ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีหนอนมาเจาะบริเวณลำคอ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน
ตรวจสอบตามร่างกาย พบบริเวณริมฝีปากและบริเวณแก้ม มีร่องรอยของการถูกกัด เป็นรอยจ้ำเลือด รวมถึงบริเวณหัวนมทั้งสองข้าง และตามลำตัวหลายแห่ง มีร่องรอยฟันมนุษย์กัดเห็นชัดเจน อวัยวะเพศมีร่องรอยของการร่วมเพศ ตำรวจได้นำร่างไปชันสูตรต่อตามกระบวนการ ส่วนสามีผู้ตายคือนายนิติพจน์ หรือดาว ลมไธสง อายุ 52 ปี ซึ่งอยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์ซาเล้ง คาดว่าน่าจะหลบหนีไปหลังทราบว่าภรรยาเสียชีวิต
จากการสอบถามนางกาสุม อาจทวีกุล อายุ 59 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า
ปกติจะไม่ค่อยสุงสิงกับบ้านหลังนี้มากนัก เพราะเขาชอบอยู่โดดเดี่ยว ไปหากินรับจ้างทั่วไป ทั้งสองชอบดื่มเหล้า วันสองวันนี้ ไม่เห็นนางกมลา ออกจากบ้านข้ามวัน และไม่เห็นสามีอยู่บ้าน จึงเดินเข้าไปดูเห็นประตูหน้าบ้านล็อค จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยดู พบหลังบ้านเปิดจึงเข้าไปดู พบว่านางกมลา กลายเป็นศพดังกล่าว
นางสมบัติ พิมพ์พา อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เผยว่า
ที่ผ่านมาเห็นทั้งสองตีกันทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เมาทั้งคู่ แต่ฝ่ายหญิงไม่ปริปากบ่น ใครเข้าไปบอกไม่ได้ เพราะโดนสวนว่า ครอบครัวใครครอบครัวของเขา เหมือนกับฝ่ายหญิงยอมให้ถูกทำร้าย จำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย
ด้านนางสุนทรา กกไธสง อายุ57ปี พี่สาวคนผู้ชีวิต บอกว่า
ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว เพราะเข้าไปบอกเตือนก็โดนสวนว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ไม่อยากให้มายุ่ง จึงต้องปล่อยให้น้องโดนทำร้ายทุกวันเช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายนิติพจน์ สามีผู้ตาย เพราะได้หลบหนีไป ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบแน่ชัด ว่าใครเป็นคนทำร้ายจนเสียชีวิต และทำไมต้องกัดตามร่างกายจนเป็นรอยแผล มีเพียงเสียงวิจารณ์จากชาวบ้านว่า สามีน่าจะเป็นคน”ซาดิสต์”
ขอขอบคุณข่าว/ภาพ - เรืองรุจ วังแจ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.บุรีรัมย์