หลังจากข่าวสุดช็อกโลกวันนี้ (8 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ชินโซ อาเบะ" อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ถูกลอบยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์ช่วยลูกพรรคหาเสียงในเมืองนาราทางภาคตะวันตก ซึ่งสำนักข่าวเคียวโด ของญี่ปุ่นรายงานว่า อาเบะถูกยิงจากด้านหลังจนล้มลง หมดสติ มีเลือดออกจากหน้าอก และอยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้น ก่อนที่จะถูกนำขึ้นรถฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาล จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับ “ชินโซ อาเบะ” เกิด 21 กันยายน พ.ศ. 2497 ที่เมืองนางาโตะ จังหวัดยามางูจิ และได้ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซเกะ และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา ภายหลังจบการศึกษา ได้ทำงานกับบริษัทโคเบะสตีล และได้ลาออกในปี 2525 เพื่อเข้ามาเล่นการเมืองต่อมาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดยามากูชิ ซึ่งเดิมเคยเป็นของพ่อ
หลังจากนั้นเขาก็มีความก้าวหน้าทางการเมืองตามลำดับ เริ่มจากหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคมของพรรค LDP ในปี 2542 ตามด้วยรองเลขาธิการพรรคในปีต่อมา และขึ้นมาเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตำแหน่งเดียวกับพ่อในปี 2548
ต่อมาในวันที่ 26 กันยายนปี พ.ศ.2549 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก แต่เพียงปีเดียวก็ต้องลาออก จากกรณีทุจริตของรัฐมนตรีเกษตร และทัศนะเกี่ยวกับสงครามโลกของรัฐมนตรีกลาโหมที่สร้างความไม่พอใจให้คนในประเทศ
อย่างไรก็ตามอาเบะก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และได้ประกาศยุบสภาในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ก่อนครบวาระตำแหน่ง เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 ธันวาคม 2557 และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งจนในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 อาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากลำไส้ใหญ่อักเสบมีแผล (ulcerative colitis) และสุขภาพที่ไม่แข็งแรง นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์นานถึงหากนับรวมแล้วจะเป็นเวลา 7 ปี 8 เดือน 27 วัน ซึ่งความนิยมในตัวเขาขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 ครั้ง
นอกจากนี้ “ชินโซ อาเบะ” ยังมีฉายาว่า "เจ้าชาย" เพราะมาจากตระกูลใหญ่ทางการเมืองในฐานะบุตรชายของนายชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และหลานชายของนายกรัฐมนตรีโนบุสึเกะ กิชิ และ “อาเบะ” ยังถือเป็นนักอนุรักษนิยม ซึ่งนักวิจารณ์การเมืองเรียกเขาอย่างแพร่หลายว่าเป็นชาตินิยมฝ่ายขวา เขาเป็นสมาชิกของนิปปงไคจิ และมีทัศนะแบบแก้ไขประวัติศาสตร์ (revisionist) ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
รวมทั้งการปฏิเสธบทบาทของรัฐบาลในการบีบบังคับเกณฑ์หญิงบำเรอระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดกับประเทศเกาหลีใต้ เขาถือว่าเป็นสายแข็งในประเด็นเกาหลีเหนือ และส่งเสริมการทบทวนมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดให้ญี่ปุ่นมีกองทัพ อาเบะมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในด้านนโยบายเศรษฐกิจของเขา ชื่อ "อะเบะโนมิกส์" ซึ่งมีการอัดฉีดปริมาณเงิน การกระตุ้นการคลัง และการปฏิรูปโครงสร้าง