7 กรกฎาคม 2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ ประกอบด้วย พล.ต.ดร.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และกลุ่มตัวแทนภาคประชาชน ผู้ค้าจากตลาดห้วยขวาง ตลาดดินแดง เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียน โดยขอให้การเคหะฯ พิจารณาต่อสัญญาการเช่าแผงค้า รวมถึงขอให้ลดค่าเช่าพื้นที่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และวิกฤตด้านพลังงาน ส่งผลต่อรายได้และความเป็นอยู่ในขณะนี้
โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกัน ว่า วันนี้ (7ก.ค.) ตนได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น จึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดหาแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนนี้ ซึ่งพบว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่มีกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานของการเคหะฯ ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เข้ามารับช่วงบริหารต่อ ทำให้เกิดผลกระทบมากมาย จึงได้เชิญผู้บริหารจากการเคหะฯ มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน และแนวทางที่ดีที่สุด คือ การรื้อระบบใหม่ทั้งหมด พร้อมออกกฎระเบียบใหม่ โดยการเคหะฯ จะเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการตลาดเองทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อตัดคนกลางออก ซึ่งจะทำให้ผู้ค้าจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม
"จากที่ผมได้รับแจ้งจากทางการเคหะฯ คือ ขณะนี้ได้ร่างกฎระเบียบใหม่ขึ้นมา มีข้อกำหนดต่างๆ ที่เป็นธรรม โดยเฉพาะการให้สิทธิกับผู้เช่าที่เป็นคนในพื้นที่ หรือกลุ่มที่ค้าขายดั้งเดิมเท่านั้น เพื่อป้องกันการหาประโยชน์จากบุคคลอื่นนอกพื้นที่ รวมถึงการกำหนดค่าเช่าพื้นที่ใหม่ให้มีราคาที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน" นายพีระพันธุ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะกำหนดอยู่ที่เดือนละ 900 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ และจะประเมินราคาอีกครั้งในปีถัดไป อีกทั้ง การนำรายได้ที่จัดเก็บจากผู้ค้านั้น สามารถนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับตลาดและชุมชนมากที่สุด ซึ่งหลังจากการพูดคุยเบื้องต้นทางผู้ร้องเรียน พ่อค้าแม่ค้า พอใจกับแนวทางดังกล่าว และยินดีที่จะพูดคุยแก้ปัญหา และทางการเคหะฯ ก็รับปากที่จะไปแก้ไข เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและผ่อนปรนช่วยเหลือประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ที่ทุกฝ่ายสามารถเข้ามาเจรจากันด้วยการใช้เหตุผล ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้เร็วขึ้น
สำหรับในส่วนของคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งตนเป็นประธานกรรมการ เพื่อดำเนินการติดตามเร่งรัดการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียนของประชาชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น จะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 11 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีแนวทางในการดำเนินการเช่นเดียวกัน คือ เร่งรัดให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข มุ่งให้ความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้เป็นรูปธรรม เพราะประชาชนที่ร้องเรียนมาทุกคนต่างคาดหวังว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด หรืออย่างน้อยก็ได้รับรู้ว่ารัฐบาลได้ดำเนินการติดตามเรื่องให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเองให้ความสำคัญ และหลังจากนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
"ผมมีแนวทางแบบนี้ตลอด ประชาชนเดือดร้อน เขาไม่ได้คิดว่าจะต้องได้ แต่อย่างน้อยคือมีคนรับฟังเขา และเห็นว่าเราตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้ อย่างน้อยก็ได้ลดความตึงเครียดลงไปได้ ทำให้ทุกฝ่ายสามารถมาพูดคุยรับฟังเหตุผลกันมากขึ้น ดังนั้น ในการทำงานของผมนั้น จึงเน้นเรื่องของการรับฟัง และเริ่มต้นที่คิดว่าความเดือดร้อนนั้นเป็นของเราเช่นกัน เราต้องการได้รับความเป็นธรรมอย่างไร ไม่คิดว่าเรากับประชาชนเป็นคนละฝ่าย เราเป็นรัฐ เขาเป็นประชาชนจะทำให้คุยกันไม่จบ เพราะวันหนึ่งเราอาจจ เดือดร้อนด้วยก็ได้" นายพีระพันธุ์ ระบุ
ขณะที่ ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าจากตลาดห้วยขวางและดินแดง ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ กล่าวว่า การประชุมเบื้องต้นกลุ่มผู้ค้าได้รับการเยียวยาในเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ และยิ่งกว่านั้นยังได้รับความกระจ่างในหลายเรื่องที่เคยสงสัยคลุมเครือมานาน ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
"ในฐานะตัวแทนของกลุ่มผู้ค้าอยากขอบคุณนายพีระพันธุ์ ที่ได้เข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกับผู้บริหารจากการเคหะฯ ซึ่งได้มีการรับฟังปัญหาอย่างใจเย็นทำให้สามารถหาทางออกร่วมกันได้ในที่สุด การพูดคุยในวันนี้ ถือว่าสิ่งที่ได้รับความช่วยเหลือดีเกินคาด" ตัวแทนผู้ค้า กล่าว